ไม่พบผลการค้นหา
‘ปิยบุตร’ ดักทาง ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องให้เวลา ‘ธนาธร’ ชี้แจงคดีโอนหุ้นและยังไม่มีเหตุให้สั่งยุติการทำหน้าที่ ส.ส. หากเทียบกับคดี ‘ดอน’ ให้เวลามากกว่าถึง 8 เท่า แจงปมพรรคกู้เงินไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องยุบพรรค

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าว กรณีศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้องของ กกต. เพื่อวินิจฉัยคุณบัติของการเป็น ส.ส. ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยลำดับเหตุการณ์เริ่มตั้งแต่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องต่อ กกต. ซึ่งนายปิยบุตร เห็นว่ามีความไม่เป็นธรรม ดังนี้ คือ ให้หนังสือเรียกตัวนางสมพร มาราดาของนายธนาธร ไปชี้แจงต่อ กกต. โดยหนังสือส่งมาที่บ้านเวลาบ่ายโมง แต่กลับเรียกให้ไปชี้แจงในวันเดียวกันเวลา 10.00 น. และรวมเวลา 53 วันในการพิจารณาเรื่องของนายธนาธร เมื่อเปรียบเทียบกับการพิจารณาคุณสมบัติของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ใช้เวลาถึง 417 วัน ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน ข้อเท็จจริงคล้ายกัน และประเด็นที่จะวินิจฉัยคล้ายกัน 

นอกจากนี้ตนยังเห็นว่ากาาดำเนินการของ กกต. ขัดต่อการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม เพราะคณะกรรมการช่วยตรวจสอบฯ ไม่เคยเปิดโอกาสให้นายธนาธร ชี้แจง และตั้งข้อกล่าวหาทันทีภายในหนึ่งวัน หลังมีหนังสือเรียกนางสมพร อีกทั้งหนังสือบันทึกข้อกล่าวหามีข้อความเพียง 6 บรรทัด ที่ได้มากจากการตรวจสอบใน บอจ. 5 โดยไม่มีการพิจารณาข้อกฎหมายหรือหลักฐานอื่น อีกทั้งนายธนาธร มีโอกาสได้ไปให้การกับกรรมการไต่สวนได้เพียง 1 ครั้งพร้อมด้วยเอกสารกว่า 1 ลัง แต่ใช้เวลาเพียง 16 วันในการพิจารณาพยานหลักฐานทันที ทำให้มีความผิดปกติในกระบวนการ

อีกทั้งการตรวจสอบของ กกต. ยังตรวจสอบนายธนาธรตอนเป็นผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ก็ถือว่าหมดเวลาตรวจสอบไปตั้งแต่ 23 มีนาคมแล้วตามกฎหมาย ซึ่งการดึงดันที่จะตรวจสอบต่อถือว่าไม่มีอำนาจแล้ว อีกทั้งในวันที่ 8 พฤษภาคม กกต. ได้ประกาศรับรอง ส.ส. ให้นายธนาธรแล้ว ดังนั้นการตรวจสอบนายธนาธรตอนนี้ ถือว่าตรวจสอบในฐานะอะไร เนื่องจากหากเป็น ส.ส. แล้วจะเริ่มต้นความเป็น ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมตามกฎหมาย กกต. ก็ต้องเริ่มตรวจสอบคุณสมบัติและพยานหลักฐานในหลังวันที่ 24 มีนาคม ดังนั้นพรรคจึงยังรอดูคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าตรวจสอบในฐานะอะไร และตรวจสอบตอนไหนขณะเดียวกันการโอนหุ้น นายปิยบุตร ยืนยันว่าการโอนหุ้นสำเร็จตั้งแต่ก่อนรับสมัครเป็น ส.ส. แล้ว นายธนาธร จึงมีคุณสมบัติครบถ้วน จามที่ได้แถลงข่าวไปแล้วหลายครั้ง

นายปิยบุตรยังกล่าวถึงการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญ หากศาลฯ มีมติว่าไม่รับคำร้อง องค์คณะเล็กจะต้องทบทวนคำร้องอีกครั้ง แต่หากมีคำสั่งรับคำร้อง ตัวผู้ถูกกล่าวหาต้องมีโอกาสเข้าชี้แจง และหากเทียบกับคดีของนายดอน ศาลใช้เวลา 3 เดือนกว่าจะมีคำตัดสิน และมาตรา 82 เขียนว่า ศาลรัฐธรรมนูญอาจมีคำสั่งให้นายธนาธรหยุดการปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ในกรณีของนายดอน ศาลไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ใช้เวลากว่า 1 เดือนให้นายดอนชี้แจง เพราะยังไม่ก่อให้เกิดมูลเหตุความเสียหายต่อส่วนรวม

ดังนั้น ศาลจึงควรให้โอกาสนายธนาธรเข้าชี้แจงก่อนมีคำสั่งหยุดให้นายธนาธรปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส. อีกทั้งนายดอน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศขณะนั้น แต่นายธนาธรยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ ตนจึงเชื่อว่าจะไม่มีทางที่ศาลจะสั่งให้นายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถ้าใช้หลักการมาตรฐานเดียวกัน และเมื่อพิจารณาจากคดีของนายดอนต่อ จะเห็นว่าศาลยกคำร้องเนื่องจากภรรยาโอนหุ้นให้ผู้อื่นไปแล้ว เช่นเดียวกับนายธนาธร โดยสรุปคือ 3 เหตุผลดังต่อไปนี้ 1.เทียบเคียงกับกรณีของนายดอน 2.นายธนาธรยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. 3.การหยุดการปฏิบัติหน้าที่ต้องมีมูลเหตุกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

พรรคยังยืนยันว่านายธนาธรจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและตนจะดำเนินการรวบรวมเสียงเสียงสนับสนุนให้นายธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรี และแม้จะมีการสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. นายธนาธรก็ยังสามารถเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ แต่ถ้าหากมีปาฏิหาริย์ทางกฎหมายจริง พรรคจะขอสงวนสิทธิตรวจสอบ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐทุกคนด้วย

ส่วนกรณีเงินกู้ข้องพรรค นายปิยบุตรชี้แจงว่า พรรคมีความพยายามที่จะทำให้การหารายได้มีความโปร่งใส แต่ทันทีที่เปิดรับบริจาคพรรคได้รับคำสั่งจาก คสช. ห้ามรับบริจาค แต่ขณะเดียวกันกฎหมายกำหนดให้ต้องตั้งสาขาพรรคและทำกิจกรรมอีกจำนวนมาก ทำให้พรรคไม่มีงบประมาณเพียงพอในการใช้จ่าย แม้ กกต. จะแนะนำวิธีการรับบริจาคจากกรรมการบริหารพรรคไม่เกิน 10 ล้านบาท

แต่เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคไม่มีเงินมากพอ จึงใช้วิธีการกู้เงินตามกฎหมายของนิติบุคคล เนื่องจากพรรคการเมืองก็เป็นนิติบุคคลและไม่มีกฎหมายห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน และจากการตรวจสอบก็พบว่าพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาธิปไตยใหม่ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ก็กู้เงินเช่นเดียวกัน อีกทั้งประธาน กกต. ก็ลงนามรับรองแล้วว่าถูกต้อง อีกทั้งเงินกู้คือหนี้สิน ไม่ใช่รายได้ของพรรค ดังนั้นตามข้อกฎหมาย เรื่องนี้จึงไม่ใช่เหตุแห่งการยุบพรรค

นายปิยบุตรยังชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมว่า พรรคกู้เงินนายธนาธรมาแล้ว 110 ล้านบาท กำหนดชำระคือภายใน 3 ปี คิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และจะส่งงบรายปีให้เดือนตุลาคมปี 2562 ตามรอบปีงบประมาณ นายปิยบุตรยังกล่าวอีกว่า สรุปแล้วประเทศนี้ชอบความโปร่งใสหรือไม่ เพราะพรรคนี้ชี้แจงอย่างโปร่งใส แต่กลับถูกบีบให้ผิดกฎหมาย เห็นเหมือนการบีบให้พรรคการเมืองหลังจากนี้ใช้เงินนอกระบบและตนขอให้ผู้สื่อข่าวลองไปติดตามดูพรรคอื่นๆว่าในการตั้งพรรคและตั้งสาขา รวมถึงรณรงค์เลือกตั้ง ต้องใช้เงินจำนวนมาก พรรคเหล่านี้เอาเงินมาจากไหน และยืนยันว่าหากนายธนาธรต้องการครอบงำพรรคจริง จะทำสัญญาเงินกู้ทำไม 

ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลพรรคยังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลยุติการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ มีภารกิจเฉพาะหน้าตามกรอบระยะเลาชัดเจน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญและเอา คสช. กลับบ้านให้ได้ และมีทิศทางที่ดี ได้คุยกับประชาธิปัตย์แล้ว และยืนยันว่าพรรคยึดหลักสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด และตระหนักเรื่องของการสูญเสียในการชุมนุมอย่างดี และพรรคไม่มีความเชื่อในการเรื่องการทำผิดและไม่รับผิด นอกจากนี้ นายปิยบุตรยังกล่าวอีกว่าความผิดในสถานการณ์ที่อาจจะเกิดรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเนื่องจากรัฐธรรมนูญของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ดังนั้นจึงไม่ใช่ความผิดของพรรคการเมือง และการเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐจึงไม่ใช่ทางออก หามีทางนี้เพียงอย่างเดียว พรรคอนาคตใหม่ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน