พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายหัวข้อความล้มเหลวของรัฐบาลในการปฏิรูปการเมืองว่า รัฐบาลขาดความจริงใจในการปฏิรูปการเมือง การเลือกตั้งย้อนยุคไปสู่ระบบอุปถัมภ์ เดิมกระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลการเลือกตั้ง ต่อมาเมื่อกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น มีการเลือกตั้งทุกระดับ ก็มีการจัดตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีงบประมาณมากมาย แต่ปรากฏว่าการเลือกตั้งก็ยังมี ส.ส.ที่ต้องคำพิพากษามาเข้าร่วมประชุมในสภา นอกจากนี้ยังมีนักโทษมาสร้างความปั่นป่วน มีผู้ทุจริตในโครงการต่างๆ เข้าสภาหลายคน จนมีการสั่งฟ้องจึงถูกให้ปฏิบัติหน้าที่ มีส.ส.ที่บุกรุกป่าไปเลี้ยงไก่ มีส.ส.ที่โกงเงินสหกรณ์ 400 ล้านกว่าบาท 

เสรีพิศุทธ์เท้าความว่า พล.อ.ประยุทธ์ปล้นอำนาจคนอื่น ออกรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง ให้ กกต.สนับสนุนตน การเลือกตั้งปี 2562 โกงกันอย่างมโหฬาร ส่งทหารรบกวนผู้สมัครคนอื่นๆ ตนเองเจอทหารมารบกวนถึงพื้นที่หาเสียง เมื่อเรื่องถึงผู้บัญชาการแทนที่จะตักเตือนก็กลับสนับสุนน เมื่อมีการนับคะแนน บัตรของผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทยเสียเยอะมาก เมื่อร้องเรียนจนมีการนับคะแนนใหม่ก็ชัดเจนว่าพรรคเสียหายเยอะ แล้วทั้งประเทศจะเสียหายขนาดไหน นอกจากนี้ยังมีปัญหาในการคำนวณ พรรคเสรีรวมไทยได้ 8 แสนคะแนนเศษ คำนวนได้ 11.635 แทนที่จะได้ ส.ส.11 คนก็ได้มาแค่ 10 คน 

หลังจากการเลือกตั้ง 2562 ก็มีการเลือกตั้งซ่อม 18 แห่งด้วยกัน โดยจะขอกล่าวถึงเพียง 3 จังหวัด ลำปาง สมุทรปราการ นครฯ ที่พรรคเสรีรวมไทยส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง

ที่ลำปาง พรรคพลังประชารัฐ จับได้หมายเลข 1 เสรีรวมไทยหมายเลข 2 เดินหาเสียงทุกวัน ชาวบ้านมาร้องเยอะมากว่า หมายเลข 1 ซื้อเสียงจำนวนมาก ได้แต่แนะนำชาวบ้านให้แอบถ่ายภาพไว้ ปรากฏว่าได้ผล อย่างเช่นที่ หมู่ 11 ต.ล้อมแรด อ.เถิน (เปิดคลิปภาพแสดงการยื่นเงิน 300 บาทและบอกให้เลือกเบอร์ 1) นอกจากนั้นยังได้รับหนังสือร้องเรียนอีกมากมาย เช่น อ.เสริมงามที่บอกว่านายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. เป็นหัวคะแนนให้เบอร์ 1 มีการจดรายชื่อ จดเลขบัตรและแจกเงินกัน ถ้าเป็นพรรคฝ่ายค้านทำไม่ได้ ต้องเป็นพรรคที่มีอำนาจเท่านั้น หากชาวบ้านไม่เชื่อฟังก็พูดจาข่มขู่ มีการตรวจค้นทั้งที่ไม่มีหมาย ถูกจับตรวจฉี่บ้าง 

ตนจึงติดต่อขอพบผู้ว่าฯ หมูป่าซึ่งเป็นผู้ว่าลำปางขณะนั้น วัตถุประสงค์เพื่อให้ย้ายนายอำเภอ ปลัดอำเภอย้ายออกจากพื้นที่ชั่วคราว เพื่อให้การเลือกตั้งยุติธรรม ปรากฏว่าผู้ว่าฯ ป่วยเข้ารพ. รองผู้ว่าฯ บอกว่าไม่มีหน้าที่ นอกจากนี้ รมช.เกษตรก็ลงไปฝังตัวในพื้นที่ ไปสัญญาว่าจะให้หลายโครงการกับประชาชนเพื่อให้เลือกผู้สมัครเบอร์ 1 เมื่อใกล้เลือกตั้งอีก 2 วัน พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ลงพื้นที่นัดราชการประชุม อ้างว่ามาตรวจภัยแล้งทั้งที่ลำปางไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อภัยแล้ง นอกจากนี้ยังมีการจดรายชื่อของคนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เพื่อไปลงคะแนนแทนเขา เมื่อส่งเรื่องไป กกต. ก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งสิ้น 

ที่สมุทรปราการ ผู้สมัคร พปชร.หมายเลข 4 มีลักษณะเดียวกับลำปาง แต่คนแจกเปลี่ยนไป กลายเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่า อบจ. อบต. เทศบาล หัวละ 700 บาท เมื่อหักหัวคิวถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็เหลือ 500 บาท (เปิดคลิปเสียง ภาพรายชื่อหัวคะแนน ไลน์โต้ตอบการซื้อสิทธิ์ขายเสียง หลักฐานการจ่ายเงินในไลน์)

ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชาธิปัตย์เบอร์ 3 พลังประชารัฐเบอร์ 4 (เปิดคลิปภาพ ระบุว่า ชาวบ้านในอ.พระพรหม ได้เงิน 500 บาท โดยมีคนมาแจกตามบ้านให้เลือกเบอร์ 4) ตนเดินหาเสียงตลอด ไม่เคยเจอผู้สมัครของพลังประชารัฐ นอกจากนี้เสรีพิศุทธ์ยังเปิดภาพเฟซบุ๊กของปารีณา ไกรคุปต์ที่เคยโพสต์ว่า "#เฉลย เหตุผลเดียว ประชาธิปัตย์ ชนะเลือกตั้งซ่อม 2 เขต คือ ซื้อเก่งกว่าค่ะ"

ผู้สื่อข่าวรายงาน นายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช พลังประชารัฐ ระบุว่า การอภิปรายต้องอยู่ในประเด็นที่ปรึกษากันอยู่ การนำเอกสารหรือวัตถุใดมาในที่ประชุม ตนเป็นผู้สมัครหมายเลข 4 ยืนยันว่าไม่เคยได้แจกเงินตามที่เปิดคลิปกล่าวหา เป็นการใส่ความ นำเอกสารเท็จเข้ามาอภิปราย ผู้อภิปรายกำลังพูดความเท็จเพราะหาเสียงเยอะมากและเจอเสรีพิศุทธ์ไม่รู้กี่ครั้ง จากนั้นเสรีพิศุทธ์ กล่าวตอบว่า ผู้สมัครไม่มีใครจ่ายแทน จ่ายก็โง่ ต้องให้คนอื่นไปจ่าย ตนได้นำข้อมูลส่งกกต. ทั้งหมด กกต.วินิจฉัยให้ที่ลำปางมีมูลที่เดียว โดยให้ใบเหลืองผู้สมัคร นอกนั้น กกต.ยกหมด ไม่นำหลักฐานมาวินิจฉัย ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยถวายซองผ้าป่ากลับได้ใบส้ม กรณีนครราชสีมา ตำรวจสอบสวน 7 วัน อยู่ในมือ กกต.อีก 1 ปีเศษจึงวินิจฉัย เก็บไว้อีก 2 เดือนจึงประกาศ นี่คือการทำงานของ กกต.

"สรุป เลือกตั้งลำปางใช้เวลา 31 วันจึงประกาศผลการเลือกตั้ง สมุทรปราการ 43 วัน นครศรีธรรมราช 3 วัน ใช้เวลาไม่ถึง 60 วันตามกฎหมายก็ประกาศผลทั้งหมด ทั้งที่มีการร้องเรียน มีหลักฐานชัดเจน"

"ปี 2537 มหาดไทยยังคุมเลือกตั้ง มีการส่งรองผู้บัญชาการตำรวจไปดูแลการเลือกตั้ง ผมเคยดูแล 39 จังหวัด ได้กำลังตำรวจ 10 คนไม่รวมตำรวจพื้นที่ จับกุมได้ที่บุรีรัมย์ เงินสด 11 ล้านบาท แต่สมัยนั้นฉลาดกว่าสมัยนี้เยอะ ไม่ได้แจก 300 บาท ใช้วิธีแตกแบงก์ 20 ที่มีตราปั๊มกับแบงก์ร้อยเย็บติดกัน ถ้าเลือกแล้วชนะ เอาแบงก์ 20 บาทที่มีสัญลักษณ์มาแลกเพิ่มอีก 200 บาท ผ่านมาเกือบ 30 ปี ใครที่เคยฉลาดก็โง่กว่าเดิม พอได้เป็นส.ส. เป็นรัฐมนตรีก็มาโกงกัน ผมอยู่ในสภารู้เห็นหมด ที่นำเสนอก็เพื่อทำให้เห็นว่า การสืบสวนสอบสวนของ กกต. มันเทียบกับตำรวจไม่ได้ ทำไมไม่ใช้ตำรวจ กรุณาบอกคุณประยุทธ์ให้ปรึกษาคนใหญ่คนโตของบุรีรัมย์ด้วยว่าทำกันยังไง บางทีอาจใช้เงินน้อยและเข้าเป้ากว่านี้"

"เมื่อถึงสิ้นปี รัฐบาลจะทำรายงานหนาๆ ให้รัฐสภาดูปีละครั้ง เรื่องการปฏิรูปประเทศ แค่นี้รัฐบาลก็พึงพอใจแล้ว การเป็นใหญ่เป็นโตของพล.อ.ประยุทธ์โกงเขามาทั้งนั้นใช่ไหม เมื่อโกงเองจะไปสอนคนอื่นไม่ให้โกงได้ยังไง แม้ว่าจะพยายามแต่เมื่อทำไม่ได้ ก็ขอเสนอแนะการแก้ไขปัญหาทุจริตเลือกตั้ง 5 ประการ"

เสรีพิศุทธ์ เสนอให้มีการแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งใน 5 ประเด็น คือ 

• ยุบ กกต. จังหวัดเหลือเพื่อสำนักงาน กกต.เพื่อจัดการเลือกตั้งก็พอ เพราะ กกต.จังหวัดไม่มีคุณภาพ 
• ใช้ครูอาจารย์เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง 
• ใช้ตำรวจ-ทหาร เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนจับกุม โดยเฉพาะตำรวจที่รู้วิธีในการสืบสวน 
• สลับตำแหน่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นชั่วคราวช่วงเลือกตั้ง 
• เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เป็นพนักงานสอบสวน