วันที่ 2 มิ.ย. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงประเด็นการทำงานและจำนวนของข้าราชการตำรวจ ว่า เรื่องที่เกี่ยวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกกล่าวหาตำรวจไม่อยากทำงานเพราะงบฯไม่พอ ไม่มีความก้าวหน้าในการทำงานนั้น พนักงานสอบสวนทุกระดับได้ค่าตอบแทนการสอบสวนเพิ่มขึ้นและจะเพิ่มจำนวนอีกในอนาคต ส่วนตำรวจตระเวนขายแดนที่ถูกมองว่าควรลดบทบาทนั้น ก็มีหลายหน้าที่ ดังนั้นการจัดสรรงบส่วนนี้จึงมีความเหมาะสมกับผลสัมฤทธิ์
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงโครงการปฏิรูปงานตำรวจที่งบเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก ว่า การบริหารทรัพยากรมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปงานตำรวจที่มีหลายอย่าง ดังนั้นการจัดสวัสดิการให้ข้าราชการตำรวจ ก็ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง โครงการนี้จำนวน 3,781 ล้านบาท เกี่ยวกับสิ่งก่อนสร้าง 2,668 ล้าน หรือ 70% ซึ่งเป็นสวัสดิการด้านที่พักอาศัยให้แก่ตำรวจผู้น้อยซึ่งเป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีขวัญกำลังใจและความสุขในการปฏิบัติงาน
"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย รักษาความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินประชาชน เพราะนั้นเหตุใดเราจะต้องมีที่พักที่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหาร ความจำเป็นนั้น เราจำเป็นจะต้องสามารถระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมพูดถึงทหารด้วยละกัน ไปปฏิบัติหน้าที่และภารกิจต่างๆได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าเรียกเขาไม่ได้ 24 ชั่วโมงจะเรียกใครครับ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร จึงมีความจำเป็นต้องมีที่พักใกล้กับสถานที่ทำงาน เห็นว่าทุกครั้งก็ไปได้ก่อนทุกครั้ง"
ทั้งนี้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติปัจจุบันที่อยู่ที่พักยังไม่พอ กับเจ้าหน้าที่ซึ่งเราต้องการ 70% ของกำลังพล แต่ปัจจุบันได้แต่ 50% เท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องความมั่นคง ตนก็ฟังมาหลายวัน ซึ่งท่านอาจจะลืมไปที่ทั้งชายแดน เมือง เราก็ใช้คนเหล่านี้มาร่วมกับพลเรือน ตำรวจ ทหารตามภารกิจ พร้อมย้ำว่าตนต้องสนับสนุนทั้งภารกิจโดยตรงและโดยอ้อม แต่ที่สำคัญเราให้ความสำคัญกับประชาชนไปพร้อมกับดูแลข้าราชการด้วย พร้อมยืนยันรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม จะใช้งบประมาณที่มีอย่างจำกัดเพื่อพร้อมรับสถานการณ์ในอนาคต ฉะนั้นการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ จะรอหมดอายุแล้วค่อยจัดหาเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องใช้เวลามากพอสมควร เพราะงั้นก็เอาสิ่งที่จำเป็นก่อน
"ประเทศไทยไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากใครมาหายปีแล้ว เราต้องพึ่งตัวเองตลอด เราถึงมีการจัดตั้งอุตสาหกรรมป้องกันประเทศขึ้นมา อะไรที่จำเป็นก็ซื้อเท่าที่จำเป็น อะไรทำไม่ได้ก็ต้องซื้อเขา แต่ถ้าทุจริตมีผลประโยชน์ก็ไปสอบสวนมา แต่ผมเชื่อว่ากรรมการเจ้าหน้าที่ เขาชี้แจงได้ ก็ขอให้เข้าใจกันบ้างไม่ใช่ไม่ได้สนใจประชาชน"
นายกรัฐมตรี ชี้แจงว่า "วันนี้ที่ท่านนั่งอยู่ใครทำงาน บ้านเมืองสงบ ค้าขายได้ ถนนไม่ถูกปิดใครทำงาน ถึงแม้จะมีคนบางคนไปสนับสนุนอยู่ ผมไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เพราะกฎหมายมีอยู่ ไม่ใช่ว่าผมไปห้าม ไปกดกัน ไปควบคุม กฎหมายมีอยู่แล้ว ถ้าทำลายขวัญเจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหารไปเรื่อยๆอีกหน่อยใครจะทำงาน เราจะมีความสงบสุขไหม"
'อมรัตน์' ประท้วงนายกฯ ปัดทำขวัญกำลังใจตำรวจเสีย ซัดงบฯ มีควาญช้างโง่เขลา
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงเสร็จสิ้น อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นใช้สิทธิถูกพาดพิง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินออกจากห้องประชุม ทำให้ อมรัตน์ บอกว่า นายกฯ ลุกหนีเมื่อตนพูดทุกครั้ง และติว่านายกฯ เป็นคนที่ไม่เคยรับฟังพูดยาวและให้คนอื่นฟัง ก่อนจะชี้แจงถึงกรณีที่ตนอภิปรายเรื่องงบของตำรวจ พร้อมย้ำว่าพูดไปเพื่อขวัญกำลังใจไม่ใช่บั่นทอน
จากนั้น อมรัตน์ ชี้แจงว่า ตนไม่ได้ทำให้ขวัญกำลังใจตำรวจเสีย แต่เพื่อของบฯ เพิ่มให้พนักงานสอบสวน ซึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดไม่ใช่ข้อเท็จจริง รวมถึงที่นายกฯ บอกพนักงานสอบสวนมีกว่า 12,000 ตำแหน่งไม่จริง มีเพียง 7,000 กว่าคนเท่านั้น ซึ่งมีแต่ตำแหน่งแต่ไม่มีคนทำ ส่วนเรื่องเงินประจำตำแหน่งก็ไม่ถูกต้อง ฉะนั้นที่พูดนี้เป็นสิ่งที่คนไม่ได้ลงไปทำงานจริงๆ ซึ่งทุกอย่างสามารถดูที่ผลสัมฤทธิ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ตชด.
"งบฯ ปี 66 ไม่ใช่เป็นช้างป่วยอย่างเดียว แต่ยังมีควาญช้างที่โง่เขลาเบาปัญญาด้วย" อมรัตน์ กล่าว
ทำให้ ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้เตือนว่า อมรัตน์ ใช้คำพูดที่แรงเกินไป
นายกฯ ครวญเจอวิกฤตซ้อนวิกฤตที่ รบ.อดีตไม่เคยเจอ แจงเป็นนักกู้เพื่อประชาชน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ เป็นครั้งที่สอง ว่า เรื่องการใช้งบทางทหารที่เราต้องมีการฝึก การจัดอุปกรณ์เพื่อให้กำลังพลปลอดภัย รวมทั้งเรื่องขวัญกำลังใจ เพื่อให้กำลังพลปลอดภัย เพราะถ้าเรามีสงครามก็เปรียบกับเขาไม่ได้ ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะประเทศเพื่อนบ้านเราพัฒนาไปมากขึ้นในช่วง 3 ปีนี้
ทั้งนี้ จากที่ได้ฟังการอภิปรายมา 3 วันหลายอย่างก็ให้กระทรวงชี้แจง แต่ตนขอชี้แจงภาพรวมว่า งบฯปี 66 เป็นแหล่งเงินของการทำนโยบายรัฐบาล พร้อมขอเรียนว่าที่ผ่านมาเราใช้งบหลายอย่างเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศอย่างต่อเนื่องใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงอีกว่า กรณีที่ถูกกล่าวเป็นนักกู้ แต่ก็กู้มาเพื่อประชาชน 40 ล้านราย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงโควิด พร้อมเผยว่าไม่เคยมีรัฐบาลไหนมาเจอภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤตแบบรัฐบาลตน แต่ก็ตนก็จะไม่เคยละเลยในการสร้างอนาคตประเทศ เพราะจะเป็นรากฐานรายได้ของประชาชนเพื่อการพัฒนาประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ แจงอีกว่า การจัดงบฯ ตนไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง อะไรที่จัดสรรให้ได้ก็จัดสรรไป ฉะนั้นไม่ต้องกังวล เพราะนึกถึงประชาชน ขณะเดียวกันก็ระวังเรื่องกฎหมายด้วย พร้อมขอให้คนทุกคนมองในหลายมิติ ซึ่งหลายเรื่อง(ร่าง พ.ร.บ.งบฯ )หากผ่านวาระ 2 ก็พร้อมปรับ พร้อมยืนยันว่า ตนไม่รังเกียจรังงอนใครทั้งสิ้น