พรรคประชาธิปัตย์ จัดปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 350 คน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน โดยก่อนการปฐมนิเทศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาอนุมัติรายชื่อบุคคลในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ในบัญชีผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ จากนั้นเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรค กับอดีต ส.ส.ของพรรค เพื่ออนุมัติตามกฎหมาย
นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคฯ ระบุว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ ในบัญชีผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ เพียงคนเดียว ด้วยเหตุผล 5 ข้อ คือ
1.เป็นธรรมเนียมและหลักการที่พรรคยึดถือมาตลอด 72 ปี คือคนที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะเป็นบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ทุกครั้ง
2.เป็นคนที่ทุ่มเทและตั้งใจทำงานให้กับประชาชนและประเทศชาติตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ทำงานทางการเมือง เป็นที่ยอมรับของประชาชน
3.เป็นคนที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยในระบอบรัฐสภา ตลอดระยะเวลาในการทำหน้าที่ ได้ทำหน้าที่เพื่อปกป้องประชาธิปไตยและเป็นหลักในการที่จะชี้นำสังคมในเรื่องของการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ไม่ว่าจะในช่วงปกติหรือช่วงที่มีรัฐประหารก็ตาม
4.ตลอดระยะเวลาในการทำหน้าที่ส.ส.หรือนายกฯ นายอภิสิทธิ์มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ ไม่มีปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น
5.นายอภิสิทธิ์เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความเข้าใจ เคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีและอดีตนายกฯ
เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้งหลังวันที่ 24 มี.ค.นี้ หากได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีไม่จำเป็นต้องศึกษาหรือเรียนรู้งานอีกต่อไป และในปีนี้ผู้นำของประเทศจะต้องไปเป็นผู้นำองค์กรระดับโลก นายอภิสิทธิ์จะเป็นนายกฯของไทยที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศได้อย่างสง่างามในเวทีโลก