วาดิม โบอีเชนโก นายกเทศมนตรีของเมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนที่ถูกโจมตีจากกองทัพรัสเซียหนักที่สุด ตัดสินใจสั่งอพประชาชนชาวยูเครนทั้งหมดที่เหลืออยู่ในเมือง หลังรัสเซียเดินหน้าโจมตีต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา BBC รายงานว่า พื้นที่เมือง 90% พังทลายย่อยยับ ถูกตัดน้ำดื่ม ไฟฟ้า อาหาร ยารักษาโรค และระบบความร้อนเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับผู้คน
ด้าน CNN รายงานในวันที่ 28 มี.ค.อ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ของ โบอีเชนโก ที่ระบุว่า เส้นทางการอพยพส่วนใหญ่อยู่ใต้การควบคุมของรัสเซียแล้ว และขณะนี้ชาวยูเครนไม่ทราบจำนวนได้เสียชีวิตเพราะการโจมตีของรัสเซียตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา "เราไม่มีอำนาจเหนือทุกสิ่งได้ น่าเศร้าใจที่บัดนี้เรากำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้ครอบครองแล้ว"
"จากการคาดการณ์พบว่าขณะนี้น่าจะมีชาวยูเครนหลงเหลืออยู่ในมารีอูปอลราว 160,000 คน แต่เราไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ได้อีกต่อไป เพราะไม่มีทั้งไฟฟ้า ไม่มีน้ำ ไม่มีสัญญาณ มันเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวอย่างมาก"
"เราต้องการให้มีการอพยพประชาชนออกจากเมืองทั้งหมด ภารกิจสำคัญที่สุดของเราคือการรักษาทุกชีวิต และมีแนวโน้มว่าเราจะทำได้สำเร็จ ตอนนี้เรามีรถบัส 26 คันที่พร้อมอพยพผู้คน แต่น่าเสียดายที่เรายังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้"
"คนขับรถพร้อมเสี่ยงชีวิตหนีกระสุนเข้ามาช่วยผู้คนที่เฝ้ารอความช่วยเหลือ พวกเขารอทุกวันด้วยความหวัง แต่มีการเล่นเกมทุกวัน เกมอันเหยียดหยามที่มีการพูดว่าพวกคุณสามารถเข้าไปช่วยอพยพผู้คนได้ แต่แล้วก็ไม่มีใครได้รับการอนุญาตนั้นจริงๆ เพราะรัสเซียหลอกพวกเรามาตั้งแต่วันแรก" โบอีเชนโกระบุ
ในสถานการณ์ปกติ มารีอูปอลมีประชากรมากกว่า 400,000 คน ปัจจุบันผู้คนจำนวนมากหนีอพยพเอาชีวิตรอดไปยังเมืองอื่นและประเทศใกล้เคียง ขณะที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังเลือกที่จะปักหลักสู้ต่อหรือไม่ก็หนีออกไปไม่ได้
ทั้งนี้ ไม่มีความแน่ชัดว่ายังมีการต่อสู้กันเกิดขึ้นในมารีอูปอลหรือไม่ ขณะที่ทางการของยูเครนเปิดเผยว่ากองทัพรัสเซียได้ทำการขัดขวางการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปและออกมาจากพื้นที่ของมารีอูปอล แต่ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนผู้ฝักไฝ่รัสเซียชี้ว่ามีการช่วยเหลืออพยพชาวยูเครนออกมาไม่น้อยกว่าวันละ 1,700 คน