วันที่ 12 ก.พ. 2565 ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงกลาโหม มีความยินดีที่กระแสตอบรับจากประชาชนพอใจและชื่นชอบมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ โควิด-19 ของรัฐบาล ทั้ง 3 โครงการ โดยหลังเปิดให้ใช้จ่ายเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ความคืบหน้าการใช้จ่ายล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ก.พ. 2565) ผู้ใช้สิทธิ สะสม รวม 34.42 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 23,032.55 ล้านบาท แบ่งเป็น
1. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 22.23 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 20,612.3 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 10,433.8 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 10,178.5 ล้านบาท
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 11.32 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,248.45 ล้านบาท และ 3. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 0.87 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 171.80 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ที่ได้เปิดลงทะเบียนสำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (ประชาชนทั่วไป) เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2565 เป็นวันแรก ขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนครบแล้วจำนวน 29 ล้านสิทธิ ซึ่งประชาชนทั่วไปฯ ที่ลงทะเบียนโครงการฯ ระยะที่ 4 สำเร็จ จะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. ถึงวันที่ 30 เม.ย. 2565 ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ยังสามารถกดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” อย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องเริ่มใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 ภายในวันที่ 28 ก.พ. 2565 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ
"ประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชมมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐ ขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณท่านนายกฯ ในมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ช่วยประคับประคองการบริโภค ทำให้ประชาชนมีการวางแผนการใช้จ่ายที่ดีขึ้น กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้คล่องตัวมากขึ้น สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ New Normal เศรษฐกิจชุมชนก็ค่อย ๆ ขยายตัว ประชาชน และร้านค้าได้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นไปตามความตั้งใจของรัฐบาลในการพลิกโฉมประเทศไทย เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมสู่อนาคต” ธนกร กล่าว