ไม่พบผลการค้นหา
'บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์' ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) มีมติเห็นชอบให้ 'ปรับขึ้น' ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป

วันนี้ (17 มิถุนายน 2568) นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้

•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่

•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท เฉพาะบางกิจการ ได้แก่

-โรงแรมตั้งแต่ระดับ 2 ดาวขึ้นไป หรือโรงแรมที่มีห้องพัก 50 ห้องขึ้นไป

-กิจการที่มีห้องอาหารในโรงแรม

-สถานบริการ ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ เช่น คาราโอเกะ ค็อกเทลเลานจ์ เป็นต้น

การปรับขึ้นครั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป และจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในลำดับต่อไป โดยคาดว่าจะมีแรงงานได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นค่าจ้างครั้งนี้ประมาณกว่า 700,000 คน

นายบุญสงค์ กล่าวว่า การดำเนินงานครั้งนี้เป็นผลจากการประชุมหารือและตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมาอย่างรอบคอบหลายรอบภายใต้กรอบของไตรภาคี ซึ่งทุกฝ่ายได้ร่วมกันพิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และความสามารถของผู้ประกอบการ โดยเลือกเริ่มต้นจากภาคการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นน้อยที่สุด แต่สามารถขับเคลื่อนให้เกิดการจ้างงานที่มีคุณภาพได้ทันที

นี่คือความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย โดยมีรัฐมนตรีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นผู้วางแนวทางให้การปรับขึ้นค่าจ้างครั้งนี้เกิดขึ้นได้จริง และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้แรงงานทุกกลุ่ม— นายบุญสงค์ กล่าว

พร้อมกันนี้ กระทรวงแรงงานยังได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง โดยร่วมกับ 6 ธนาคารรัฐและเอกชน เปิดโครงการสินเชื่อรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการที่อาจได้รับผลกระทบจากการปรับค่าจ้าง สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อปรับตัวได้อย่างราบรื่น

ในเวทีเดียวกันนี้ นายบุญสงค์ ปลัดกระทรวงแรงงานยังแจ้งสถานการณ์แรงงานไทยในต่างประเทศว่า ขณะนี้แรงงานไทยในอิสราเอลกว่า 40,000 คน ยังคงปลอดภัยทุกคน แม้มีสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาค โดยกระทรวงแรงงานได้ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานความมั่นคง พร้อมประสานกับทูตแรงงานในพื้นที่ทุก 2 ชั่วโมง

ส่วนกรณีแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย ยืนยันว่า ไม่มีแรงงานร้องขอกลับประเทศต้นทาง ในช่วงเวลานี้ และได้รับแจ้งจากฝ่ายนายจ้างว่าแรงงานยังคงทำงานตามปกติ