ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค. 2562) นายวัฒนา เมืองสุข นักการเมืองพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “การใช้อำนาจของ คสช. ได้สร้างความเสียหายมากมาย เช่น การดำเนินคดีกับประชาชนที่แสดงความคิดเห็นหรือเรียกร้องสิทธิของตัวเองที่ถูก คสช. ยึดไปทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องถูกศาลพิพากษาจำคุก
ผลของคดีทำให้ประชาชนต้องเสียสิทธิตามกฎหมาย เช่น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (7) ที่ห้ามผู้ถูกศาลพิพากษาจำคุกสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฏรและไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ยังไม่นับรวมผลกระทบที่เกิดจากการสั่งปิดเหมืองทองซึ่งอาจทำให้รัฐต้องถูกเรียกค่าเสียหาย หรือการสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ หรือพักงานนักการเมืองท้องถิ่น หรือการออกคำสั่งแก้ไขกฎหมาย กอ.รมน. เพิ่มอำนาจรัฐคุกคามประชาชน เป็นต้น
ญัตติขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบที่เกิดจากการใช้อำนาจของ คสช. จึงมีความสำคัญยิ่งเพราะเป็นการธำรงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐ เนื่องจากอำนาจรัฐมาจากอำนาจของประชาชนที่สละอำนาจของตนรวมทั้งเสียภาษีให้รัฐเพื่อให้รัฐได้ใช้อำนาจและเงินภาษีดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
แต่การที่ คสช. ยึดอำนาจรัฐและใช้อำนาจดังกล่าวโดยขัดต่อหลักนิติธรรม หรือใช้อำนาจรัฐเพื่อปกป้องประโยชน์ของ คสช. อันมิใช่ประโยชน์สาธารณะ รัฐจึงต้องรับผิดชอบต่อประชาชนผู้ได้รับผลร้ายจากการใช้อำนาจดังกล่าวเพราะรัฐมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยให้กับประชาชน
นั่นคือคือเหตุผลที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาผลกระทบอันเกิดจากการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมดังกล่าว เพื่อหาทางเยียวยาหรือแก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะประชาชนไม่อาจฟ้อง คสช. เองได้เนื่องจากนิรโทษกรรมตัวเองไว้ ครั้นจะฟ้องรัฐบาลก็ไม่ได้เพราะไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ดังนั้น การที่รัฐบาลใช้เล่ห์เพทุบายขอนับคะแนนใหม่ที่จริงคือขอลงคะแนนใหม่ รวมทั้งใช้เงินซื้อตัว ส.ส. ฝ่ายค้านเพื่อล้มญัตติดังกล่าวที่นอกจากจะสร้างความเสื่อมให้กับการเมืองแล้วยังตัดหนทางของประชาชนที่จะใช้สภาเป็นที่พึ่งอีกด้วย
ทั้งหมดคือผลพวงของรัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเพื่อให้พลเอกประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น บริหารประเทศแบบไร้ปัญญาทำให้เศรษฐกิจเสียหายยับเยินประชาชนไม่มีจะกินแต่รัฐบาลกลับสนุกกับการแจกกล้วยสร้างงูเห่าทางการเมือง ร่วมมือกันปล้นสิทธิของประชาชนเลวทั้งคนให้และคนรับครับ”