นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่ ส.ส. เสียบบัตรแทน เพื่อลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จนเกิดประเด็นข้อกฎหมาย อาจทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะมีความล่าช้าออกไป โดยยืนยันว่าไม่ต้องกังวล เพราะรัฐบาลได้มีการหาทางออกไว้แล้วประมาณ 5-6 ทาง แต่ยังขอไม่เปิดเผยว่าเป็นช่องทางใด โดยขอให้สภาผู้แทนราษฏรตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาก่อน ซึ่งให้ยึดไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 143
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการใช้จ่ายงบประมาณอาจล่าช้า แต่ไม่ส่งผลเสียหายร้ายแรงหรือไม่วิบัติ ตามที่มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งใครที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นแน่นอน เพราะอย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะสามารถนำงบประมาณมาขับเคลื่อนโครงการต่างๆได้ และย้ำว่าแนวทางการออกพระราชกำหนดเงินกู้จะเป็นทางเลือกสุดท้าย ยังไม่ควรนำมาใช้ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าในส่วนของงบประจำหรืองบบุคลากรภาครัฐ จะไม่ได้รับผลกระทบ และยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องงบลงทุนมากกว่า
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอให้ใช้วิธีการแสดงข้อมูลอัตลักษณ์ ด้วยการแสกนม่านตาหรือนิ้วมือในการลงมติร่างกฏหมายต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาการเสียบบัตรแทน ว่า ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด โดยไม่แน่ใจว่าข้อเสนอดังกล่าวจะทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาฯ ที่จะพิจารณาและหาแนวทางปฏิบัติ แต่ส่วนตัวมองว่าห้องประชุมจันทรา น่าจะไม่สามารถปรับระบบต่างๆได้ในตอนนี้ แต่ในส่วนของห้องประชุมอื่นนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาฯจะพิจารณา
ทั้งนี้ นายวิษณุ ยังได้แสดงความเสียใจต่อการอนิจกรรมของนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ซึ่งถือว่าได้ขาดบุคลากรสำคัญทางการเมือง โดยนายชัยถือเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถหลากหลายด้าน
อ่านเพิ่มเติม