จากเดิมที่นิตยสารไทม์ (TIME) มีการจัดอันดับ 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก (TIME 100 list of the world’s most influential people) เป็นประจำทุกปีมา 15 ปีแล้ว ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ นิตยสารไทมส์ได้เปิดตัวการจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลใหม่คือ อันดับ 100 บุคคลแห่งอนาคต (TIME 100 NEXT) ซึ่งเป็นอันดับ 100 ดาวรุ่งที่จะกำหนดอนาคตโลกในด้านต่างๆ เช่น ธุรกิจ ความบันเทิง กีฬา การเมือง วิทยาศาสตร์ และสุขภาพ
ในการจัดอันดับ TIME 100 NEXT ครั้งแรกนี้ มีคนไทยติดอันดับด้วยกัน 3 คน ได้แก่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ติดอันดับในหมวดผู้นำ วงแบล็กพิงค์ (Blackpink) เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีซึ่งมีลิซ่า - ลลิษา มโนบาล เป็นสมาชิก ติดอันดับในหมวดปรากฏการณ์ และกชกร วรอาคม ภูมิสถาปนิกผู้ใช้การออกแบบรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ติดอันดับในหมวดนวัตกร
แดน แม็กไซ บรรณาธิการบริหารนิตยสารไทม์ กล่าวว่า 100 อันดับบุคคลแห่งอนาคตของไทม์นั้น ล้วนเป็นผู้มีปณิธานอันยิ่งใหญ่ และตระหนักว่าจะต้องเผชิญอุปสรรคที่ใหญ่กว่ามาก ถึงอย่างนั้น พวกเขาต่างก็ "ขับเคลื่อนด้วยความหวัง" และตั้งมั่นจะท้าทายความเป็นไปได้ และสู่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
สำหรับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจนั้น ชาร์ลี แคมป์เบล ผู้สื่อข่าวเอเชียตะวันออกของไทม์ ได้บรรยายว่าเขาเป็นผู้ปลุกไฟในตัวเยาวชนไทยในการหยุดยั้งวงจรอุบาทว์ของรัฐประหารที่ทำให้ประเทศไทยล้าหลัง
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทราบดีว่าการคว้าอำนาจจากคณะรัฐประหารไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในที่สุดแล้วพรรคอนาคตใหม่ได้รับคะแนนเสียงถึง 17 เปอร์เซ็นต์จากการเลือกตั้งในปีนี้ ซึ่งนับว่าไม่เลวเลยสำหรับพรรคที่เพิ่งก่อตั้งมาได้เพียงปีกว่า
“ทว่าธนาธร เศรษฐีพันล้านผู้เป็นทายาทกิจการชิ้นส่วนรถยนต์ ก็ประสบความสำเร็จในการปลุกไฟในตัวเยาวชนคนไทย ที่พากันตามการนำของเขาในการหยุดวงจรอุบาทว์ของการรัฐประหารและการเสียเลือดเสียเนื้อเลือดจากการลงถนนประท้วง ซึ่งฉุดรั้งประเทศไทยมากว่า 80 ปี
“ท่ามกลางการท้าทายอำนาจที่มีให้เห็นมากขึ้น บรรดานายพลในกองทัพได้ตอบโต้ด้วยการฟ้องร้องคดีจำนวนมาก ซึ่งธนาธรเองอ้างว่าเป็นการหวังผลทางการเมือง เขาได้กล่าวว่ายังคงมุ่งสร้างความเคลื่อนไหวภายในสภา แม้ว่าจะเผชิญกับการต่อสู้ความต่างๆ อยู่" นิตยสารไทม์ระบุ พร้อมยกคำกล่าวของธนาธรว่า “กระบวนการนำมาซึ่งประชาธิปไตย (democratization) การลดบทบาททางการเมืองของกองทัพ (demilitarization) และการกระจายอำนาจ (decentralization) นี่คือหัวใจของพวกเรา”
ทางด้านวงแบล็กพิงก์นั้น แคต มูน นักเขียนจากไทม์ ได้กล่าวถึงพวกเธอในฐานะวงดนตรีเกาหลีที่ทลายกำแพงภาษาและกลายเป็นที่นิยมในระดับโลกทั้งในงานเทศกาลดนตรีและบนยูทูบ
“แบล็กพิงก์อาจจะเพิ่งเริ่มมีชื่อเสียงในสหรัฐฯ ทว่าบนยูทูบนั้นเรียกได้ว่าพวกเธอครองบัลลังก์ สี่สาวซึ่งประกอบด้วย จีซู เจนนี โรเซ และลิซ่า มีผู้ติดตามบนยูทูบ 31 ล้านราย มากกว่าวงดนตรีใดในโลก ในปีนี้ แบล็กพิงก์ยังกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวงแรกที่ได้แสดงในเทศกาลดนตรีและศิลปะโคเชลลา (Coachella) เป็นการเถลิงศักราชใหม่ของเกาหลีในการทลายกำแพงภาษาสู่การแสดงบนเวทีระดับโลก"
"ความสำเร็จของแบล็กพิงก์นั้น ได้รับการหนุนจากบลิงก์ส (Blinks) หรือบรรดาแฟนของวงผู้ช่ำชองโลกดิจิทัล ซึ่งช่วยให้ยอดวิวมิวสิกวิดีโอเพลง 'Ddu-Du Ddu-Du' ทะยานสู่ 1 พันล้านครั้ง พวกเธอบอกว่าเป้าหมายของวงคือการสร้างสรรค์ดนตรีที่ช่วยให้ผู้ฟังได้รับ 'ความเชื่อมั่นและความกล้า' "
ในส่วนของ กชกร วรอาคม ภูมิสถาปนิกไทย เลย์นี บาร์รอน นักเขียนของไทม์ กล่าวถึงการที่เธอนำความณู้ทางสถาปัตยกรรมมาบรรเทาวิกฤตจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ โดยยกตัวอย่างการอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถกักเก็บน้ำฝนได้ถึงล้านแกลลอน
"ในปี 2011 (พ.ศ. 2554) ประเทศไทยประสบกับอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในครึ่งศตวรรษ ทำให้หลายครอบต้องหนีน้ำ รวมถึงภูมิสถาปนิกอย่างกชกร วรอาคมด้วย จากเหตุการณ์นั้น เธอตอบโต้ด้วยการตั้งเป้าจะสร้างพื้นที่สีเขียวที่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศให้ทั่วเมืองหลวงของไทยเพื่อสู้กับพายุฝนที่มาทุกปี
"หลังจากชนะสัญญาสัมปทานสร้างสวนสาธารณะซึ่งไม่มีการสร้างในกรุงเทพฯ มาสามทศวรรษแล้ว เธอได้สร้างพื้นที่ 11 เอเคอร์ (ราว 28 ไร่) ที่กักเก็บน้ำได้ 1 ล้านแกลลอน (ราว 3.79 ล้านลิตร) ซึ่งเป็นส่วนผสมของสวนลาดเอียง พื้นที่ชุ่มน้ำ และบ่อหน่วงน้ำ ในปีนี้ แลนด์โปรเซส บริษัทของเธอจะเปิดตัวสวนอีกแห่งพื้นที่ 36 เอเคอร์ ซึ่งมีสวนเกษตรบนดาดฟ้ากลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียด้วย
"ในขณะเมืองทั่วโลกประสบวิกฤตจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ กชกร วรอาคม กล่าวว่าสถาปนิกต้องลุกขึ้นเผชิญกับความท้าทาย" นิตยสารไทม์ระบุ
ที่มา: TIME
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: