ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี พอใจอันดับการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ปีล่าสุด ไทยเลื่อนขึ้น 19 อันดับ ติดท็อป 1 อาเซียน ย้ำเป็นความสำเร็จของทุกฝ่าย

พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรับทราบและพอใจผลการจัดอันดับการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในกรอบสหประชาชาติ (UN SDGs) ปี 2019 ซึ่งประเทศไทยเลื่อนขึ้น 19 อันดับจากอันดับที่ 59 เมื่อปีที่แล้วมาอยู่ที่อันดับ 40 ในปีนี้ และถือเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน จากรายงานของเครือข่ายการแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Solutions Network – SDSN) และมูลนิธิ Bertelsmann Stiftung 

“นายกฯ กล่าวว่า ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากความพยายามและความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยรัฐบาลเน้นเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศที่มีความสมดุลในเรื่องคนกับสิ่งแวดล้อม คนกับคนหรือการลดความเหลื่อมล้ำ และคนกับเทคโนโลยี ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงหรือศาสตร์พระราชา” พลโทวีรชน กล่าว

สำหรับปีนี้ประเทศไทยมีคะแนนตาม SDG Index ที่ 73.0 คะแนนเฉลี่ยภูมิภาค 65.7 โดยมีคะแนนเพิ่มขึ้นเรื่องการขจัดความยากจน การจัดการน้ำและสุขาภิบาล โดยเฉพาะการจัดบริการน้ำดื่มและบริการสุขาภิบาล รวมทั้งการจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อวัดจากประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มีบัญชีกับธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น หรือกับผู้ให้บริการการเงินผ่านมือถือ และมีอัตราการว่างงานที่ต่ำ

ส่วนในด้านอื่น ๆ ไทยมีแนวโน้มดีขึ้นถึง 6 ข้อ คือ 1) การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี 2) ความเท่าเทียมทางเพศ 3) พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ 4) อุตสาหกรรม นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน 5) เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน 6) สังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก

รองโฆษกฯ กล่าวว่า ในรายงานระบุว่า การขจัดความยากจนยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญของโลก แต่ประเทศไทยมีคะแนนดีขึ้นจึงสะท้อนว่า เรามีความพยายามและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยรัฐบาลมุ่งเน้นส่งเสริมความเท่าเทียมด้านรายได้และการลดความเหลื่อมล้ำ และสนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสและเข้าถึงบริการสาธารณะ

ทั้งนี้ สมาชิกอาเซียนได้รับการจัดอันดับดังนี้ เวียดนาม อันดับ 54 สิงคโปร์ อันดับ 66 มาเลเซีย อันดับ 68 ฟิลิปปินส์ อันดับ 97 อินโดนีเซีย อันดับ 102 เมียนมา อันดับ 110 สปป.ลาว อันดับ 111 กัมพูชา อันดับ 112 ส่วนบรูไน ไม่ได้รับการจัดอันดับ