แพทย์ฝึดหัดจำนวนมากได้เริ่มประท้วงผละงาน ขณะที่แพทย์อีกหลายพันคนก็เริ่มการประท้วงเป็นเวลา 3 วัน เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2563 โดยการผละงานประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เกาหลีใต้กำลังพยายามควบคุมการระบาดของโควิด-19 ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 25 ส.ค. 2563 มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 320 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
การหยุดงานประท้วงที่เกิดขึ้นทำให้โรงพยาบาลใหญ่ 5 แห่ง ในเกาหลีใต้ต้องจำกัดชั่วโมงการทำงานและเลื่อนตารางผ่าตัดบางกรณีออกไป โดยการหยุดงานประท้วงนี้จัดขึ้นโดยสมาคมแพทย์เกาหลี (Korean Medical Association) ซึ่งมีสมาชิกประมาณ 130,000 คน กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ได้ออกคำสั่งให้แพทย์ที่ทำงานในกรุงโซลและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างอินชอนและจังหวัดคยองกีกลับไปทำงานทันที ผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือแม้แต่ลงโทษจำคุกไม่ถึง 3 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่ถึง 30 ล้านวอน หรือกว่า 792,000 บาท
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ แพทย์ได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลที่จะเดินหน้ารักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่ไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้ในประเด็นที่กว้างขวางกว่านั้น โดยรัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้ระบุว่า สมาคมแพทย์เกาหลีและสมาคมแพทย์ฝึกงานเกาหลี (Korean Intern Resident Association) ได้ปฏิเสธหลายข้อเสนอของรัฐบาล ขณะที่สมาคมแพทย์เกาหลีระบุในแถลงการณ์ว่า ชุมชนแพทย์เปิดกว้างสำหรับความเป็นไปได้ในการพูดคุยทั้งหมดกับรัฐบาล และแพทย์ก็ไม่ได้ต้องการผละงานประท้วง แต่ก็อยากให้มีการรับฟังความเห็น
ทั้งสมาคมแพทย์เกาหลีและสมาคมแพทย์ฝึกงานเกาหลีระบุว่า พวกเขาคัดค้านแผนของรัฐบาลที่จะเพิ่มจำนวนนักเรียนแพทย์ในช่วง 10 ปีต่อจากนี้ รวมถึงแผนการก่อตั้งโรงเรียนแพทย์ของรัฐ อนุญาตให้ประกันของรัฐครอบคลุมแพทย์แผนตะวันออกมากขึ้น และเพิ่มทางเลือกการรักษาทางไกล โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่าเป้าหมายของการเพิ่มจำนวนนักเรียนแพทย์ 4,000 คน ในช่วง 10 ปีข้างหน้ามีความจำเป็น เพื่อการเตรียมพร้อมที่ดีขึ้นในการรับมือวิกฤตสาธารณสุขอย่างเช่นการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา โดยจะเริ่มแผนนี้ในปี 2565 อย่างไรก็ตาม นักศึกษาแพทย์ระบุว่าแผนนี้จะเป็นการทำให้ตลาดงานที่แข่งขันสูงอยู่แล้วมีกำลังคนล้นโดยไม่จำเป็น และงบประมาณพิเศษก็ควรนำไปใช้เพิ่มเงินเดือนให้กับแพทย์ฝึกหัดที่มีอยู่ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้บุคลากรเหล่านี้ออกจากกรุงโซลไปยังพื้นที่ชนบท ซึ่งมีความต้องการบุคลากรด้านสาธารณสุขมากกว่า
อ้างอิง The Straits Times / Yonhap News Agency