นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สรุปผลการประชุมใหญ่ เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับใหม่ โดยมีสาระสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่
หนึ่ง สัดส่วนของกรรมการต่างๆ ได้แก่ กรรมการบริหารพรรค 41 คนต้องประกอบด้วยผู้หญิง 10 คน และกรรมการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 11 คน ประกอบด้วยผู้หญิง 3 คน และคนที่อายุถึงไม่ 35 ปี 1 คน เพื่อให้มีความก้าวหน้าทางสังคมมากขึ้น
สอง บรรจุนโยบายพรรคเข้าไปในข้อบังคับพรรค
สาม การเลือกหัวหน้าโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการหยั่งเสียง จากนั้นจึงจัดประชุมใหญ่พรรคอีกครั้งในเดือน พ.ย. เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ระเบียบเรื่องการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคไม่มีใครโต้แย้ง และตนมอบให้คณะกรรมการบริหารพรรคดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ และจะเปิดรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้ง โดยสมาชิกพรรค และผู้ที่เคยเป็นสมาชิกกว่า 2.5 ล้านคน ที่ไม่เคยลาออก และไม่เคยสมัครสมาชิกพรรคการเมืองอื่น มีสิทธิ์มาร่วมหยั่งเสียงได้
ระเบียบวิธีการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
ส่วนเรื่องวิธีการหยั่งเสียงและการนับคะแนน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้มีการเสนอ ไว้ 2 รูปแบบคือนับคะแนนแบบคณะผู้เลือกตั้งกับแบบหนึ่งคนหนึ่งเสียง ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ตนเองจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องเพราะเป็นผู้มีส่วนได้เสีย จึงมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารพรรคดำเนินการร่างระเบียบและวิธีการที่จะออกตามมาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนให้ผู้เสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งพิจารณาแสดงความเห็นร่วมกันอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าวิธีการจะเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย ไม่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขัน รวมถึงจะไม่เกิดปัญหาด้านข้อกฎหมายในภายหลัง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากเดินทางไปปฏิบัติภารกิจผู้แทนพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยที่ประเทศแอฟริกาปลายสัปดาห์หน้า ก็จะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเสนอชื่อเข้าชิงเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ หากตัดสินใจเสนอชื่อเข้าชิงก็พร้อมจะยุติการทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพรรค แม้จะไม่สามารถลาออกให้บุคคลอื่นมารักษาการแทนได้ เนื่องจากจะกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค และคาดว่ากระบวนการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคจะเสร็จสิ้นภายในต้นเดือน พ.ย. นี้ ก่อนให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณาให้ความเห็นชอบหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :