รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศระงับความร่วมมือด้านการค้ากับเกาหลีเหนือ ซึ่งสิงคโปร์จะระงับการนำเข้าและส่งออกสินค้าทั้งหมดไปยังเกาหลีเหนือ เพื่อให้เป็นไปตามมติคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
สิงคโปร์เป็น 1 ในไม่กี่ประเทศที่มีความสัมพันธ์ด้านการทูตกับเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ และเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 7 กับเกาหลีเหนือ ซึ่งสำนักงานศุลกากรของสิงคโปร์ระบุว่าโทษของการฝ่าฝืนลักลอบนำเข้าหรือส่งออกสินค้าไปยังเกาหลีเหนือ อาจต้องชำระค่าปรับสูงสุด 200,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 4 ล้าน 9 แสนบาท หรืออาจคิดเป็นเงินค่าปรับ 4 เท่าของมูลค่าสินค้า และยังมีโทษจำคุกสูงสุดเป็นเวลาอีก 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศคู่ค่้าอันดับ 5 ของเกาหลีเหนือก็เพิ่งประกาศระงับความร่วมมือด้านการค้ากับเกาหลีเหนือเช่นเดียวกัน แต่ทั้งฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ยังคงรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตไว้กับเกาหลีเหนือตามเดิม
การคว่ำบาตรครั้งนี้มีขึ้นหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางเยือน 5 ประเทศเอเชีย และเข้าร่วมการประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งหนึ่งในวาระสำคัญของการเยือนครั้งนี้ คือการกดดันให้ชาติอาเซียน โดยเฉพาะไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่งมีสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ ยอมร่วมมือคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างเข้มข้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ไม่ประสบความสำเร็จในการล็อบบีจีนให้ร่วมคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่ม เนื่องจากจีนยืนยันในขณะที่นายทรัมป์เยือนกรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ ว่าจีนทำทุกอย่างตามมติสหประชาชาติแล้ว จึงจะไม่เพิ่มการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือไปมากกว่านี้