นาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียถูกตั้งข้อหาฟอกเงิน 3 คดี ซึ่งการตั้งข้อหาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนสอบสวนกรณีอื้อฉาวที่เงินหายไปจากกองทุนรัฐบาล 1MDB (วัน มาเลเซีย ดีเวลอปเมนท์ เบอร์ฮาด) จนส่งผลให้พรรคของนาจิบแพ้การเลือกตั้งครั้งล่าสุด
อัยการระบุว่า พบการโอนเงิน 3 ครั้งจาก SRC International ซึ่งเคยเป็นหน่วยงานหนึ่งของกองทุน 1MDB เข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของนายนาจิบ 2 บัญชี รวมเป็น 42 ล้านริงกิตหรือประมาณ 350 ล้านบาท ในช่วง ธ.ค. 2557 -ก.พ. 2558 แต่นายนาจิบยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิดในข้อหาฟอกเงินแต่อย่างใด
ศาลสูงของมาเลเซียเตรียมพิจารณาคดีของนาจิบต่อในช่วงบ่ายวันนี้ (8 ส.ค.) หากศาลตัดสินว่านายนาจิบมีความผิดจริง เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี และอาจต้องจ่ายค่าปรับอีกจำนวนมาก
ที่ผ่านมา นายจิบได้ปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่รู้เห็นกับการทุจริตในกองทุน 1MDB และในการสอบสวนคดีครั้งก่อนในสมัยที่เขายังอยู่ในอำนาจ เจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุว่า เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่การสอบสวนคดี 1MDB ครั้งใหม่ได้เริ่มต้นทันทีที่นาจิบแพ้การเลือกตั้งให้กับมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่เคยหนุนนาจิบ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมหาเธร์หันมาจับมือกับปากาตัน ฮารัปปัน พรรคฝ่ายค้านที่นำโดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ศัตรูทางการเมืองคนสำคัญ
นาจิบ สมาชิกครอบครัว และพันธมิตรของเขาหลายคนถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินจำนวนมหาศาลด้วยการซื้อชิ้นงานศิลปะ สินค้าหรูหรา และอสังหาริมทรัพย์ราคาสูงทั่วโลก โดยตำรวจได้ยึดทรัพย์สินมีค่าจำนวนมากตั้งแต่กระเป๋าแบรนด์หรู เครื่องประดับ และเงินสดจำนวนมาก จากการบุกค้นบ้านพักหลายหลังของนาจิบและภรรยา ซึ่งตำรวจอ้างว่าเป็นการบุกยึดทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มาเลเซีย
นาจิบได้ตั้งกองทุนรัฐบาล 1MDB ขึ้นเมื่อปี 2552 โดยอ้างว่ากองทุนนี้จะช่วยให้กรุงกัวลาลัมเปอร์ขึ้นมาเป็นฮับทางการเงิน และกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนอย่างมียุทธศาสตร์
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเริ่มระแคะระคายเกี่ยวกับความโปร่งใสของกองทุนนี้ในปี 2558 เมื่อกองทุนดังกล่าวไม่จ่ายหนี้ที่กู้ยืมเงินมาจากธนาคารและผู้ถือตราสารหนี้จำนวนกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นไม่นาน สำนักข่าวเดอะ วอลสตรีท เจอร์นัลได้เปิดโปงเอกสารที่ระบุว่ามีการโอนเงินจากกองทุน 1MDB จำนวนกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าบัญชีส่วนตัวของนาจิบ
ที่มา : Channel News Asia, BBC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :