นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยแนวทางการตอบโต้การใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนในเขตตะวันออกของเมืองโกตา ซีเรีย โดยยืนยันว่าสหรัฐฯจะใช้มาตรการรุนแรงตอบโต้ซีเรียอย่างแน่นอน และมีวิธีการทางทหารหลายวิธีที่สามารถนำมาใช้ได้ โดยจะมีการตัดสินใจว่าจะใช้วิธีการใดในเร็วๆนี้ และขณะนี้สหรัฐฯใกล้จะได้ข้อสรุปแล้วว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนซีเรีย
นายทรัมป์ยังได้หารือกับนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และทั้งคู่ยืนยันร่วมกันว่าต้องมีมาตรการที่ชัดเจนตอบโต้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็ประณามการใช้อาวุธเคมีในซีเรียว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนไร้มนุษยธรรม และเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ต้องถูกนำตัวมาลงโทษเพื่อแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้
หน่วยกู้ภัยในพื้นที่รายงานว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยแก๊สพิษในเมืองโกตา อาจสูงเกือบ 200 ราย แต่ยังไม่มีใครสามารถยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่นอนได้ เพราะสถานการณ์สู้รบยังดำเนินอยู่ ทำให้ไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่ได้
การแสดงท่าทีจากนานาชาติในเรื่องนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องหลังจากการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ หรือ UNSC ที่สหรัฐฯและรัสเซียต่างกล่าวโทษกันในกรณีความขัดแย้งสงครามกลางเมืองซีเรีย นิกกี เฮย์ลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ ถึงกับกล่าวว่ามือของรัสเซียเปื้อนเลือดเด็กๆชาวซีเรีย และกล่าวหาว่านายอัล-อัสซาดเป็น "ปีศาจ" ขณะที่ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติก็ยืนยันว่าการโจมตีด้วยอาวุธเคมีถูกจัดฉากขึ้น และหากสหรัฐฯเข้าแทรกแซงด้วยการใช้กำลัง ก็จะเกิดผลเสียหายตามมาอย่างมหาศาล
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯเคยใช้ขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศของซีเรียครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เพื่อตอบโต้การที่กองทัพซีเรียเคยใช้อาวุธเคมีกับประชาชน ทำให้หลายฝ่ายจับตาว่าสหรัฐฯอาจจะใช้การโจมตีด้วยขีปนาวุธไปยังฐานทัพของซีเรียเพื่อตอบโต้อีกครั้งในเร็วๆนี้