ไม่พบผลการค้นหา
สปสช.แจงความคืบหน้าการจัดสรรงบกลางปี 61 ที่ได้รับมากว่า 4 พันล้านบาทหลัง ครม.อนุมัติเพิ่มในส่วนกองทุนผู้ป่วยในอยู่ระหว่างโอนให้ รพ. คาดภายใน มิ.ย.นี้ ดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมระบุ รัฐบาลเพิ่มเงินในระบบบัตรทองช่วยทำให้อัตราจ่ายค่ารักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับผู้ป่วยในเพิ่มเป็น 8,000 บาท จากเดิมที่เคยได้รับ 7,500 บาท ทำให้ รพ.มีสภาพคล่องดีขึ้น

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561 อนุมัติงบกลาง ปี 2561 จำนวน 4,186.13 ล้านบาท สำหรับบริการผู้ป่วยในในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เพิ่มเติมนั้น ในส่วนการดำเนินงานของ สปสช.ภายใต้มติของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการโอนเงินให้โรงพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในส่วนค่าบริการผู้ป่วยใน คาดว่าภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2561 นี้จะดำเนินการแล้วเสร็จ

นพ.ศักดิ์ชัยระบุว่า ผลจากการที่รัฐบาลอนุมัติงบกลางให้นี้ จะช่วยทำให้อัตราจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในเพิ่มสูงขึ้น จากเดิมก่อนที่จะได้รับงบกลางอยู่ที่ประมาณ 7,500 บาทต่อน้ำหนักสัมพัทธ์ (RW) ซึ่งโรงพยาบาลหลายแห่งบอกว่าไม่เพียงพอ ขณะที่ ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและประธานบอร์ด สปสช.ได้รับทราบสถานการณ์ปัญหาจึงเป็นที่มาของการของบกลางปีเพิ่ม ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ สนับสนุนเต็มที่ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติเพิ่มให้ ซึ่งจะทำให้การจัดสรรเงินสำหรับบริการผู้ป่วยในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะอยู่ที่ 8,000 บาทต่อน้ำหนักสัมพัทธ์ (RW) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหมาะสม ไม่กระทบกับสภาพคล่องของโรงพยาบาล และหากสิ้นปีงบประมาณมีเงินค่าบริการผู้ป่วยในคงเหลือก็จะโอนคืนให้โรงพยาบาลทั้งหมด ก็จะทำให้ค่าน้ำหนักสัมพัทธ์เพิ่มขึ้นอีกด้วย