นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากปัญหาขยะตกค้างที่เกิดขึ้น พบมีขยะตกค้างสะสมรวมกว่า 30 ล้านตัน โดยท้องถิ่นจัดการตามหลักวิชาการไปได้กว่าร้อยละ 70- 80 จึงยังเหลือขยะสะสมตกค้างอยู่ คือ ปี 2560 ประมาณ 27.7 ล้านตัน กำจัดตามหลักวิชาการไปแล้วประมาณ 20 ล้านตัน เหลือขยะสะสมตกค้างที่ต้องดำเนินการอีกประมาณ 7.7 ล้านตัน
ขณะที่ตามแผนแม่บทการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายของประเทศ พ.ศ. 2559 – 2564 เน้นให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ปัญหาขยะมูลฝอยตกค้าง หรือจัดการไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมุ่งให้เกิดการจัดการกับขยะสะสมที่ตกค้างให้หมดไปร้อยละ 100 ภายในปี 2562
ทั้งนี้ เพื่อให้จัดการกับขยะสะสมที่ตกค้างเป็นไปตามแผน กรมควบคุมมลพิษ ได้เน้นให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสิ่งแวดล้อมเร่งแก้ปัญหามลพิษจากการจัดการขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้องผ่านการแผนการดำเนินงานการแก้ปัญหามลพิษจากขยะมูลฝอยตกค้าง หรือการจัดการขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้อง (Work Plan)
นายประลอง กล่าวย้ำว่า ต้องเร่งทำตัวชี้วัดให้ได้ตามแผนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ที่กำหนดตัวชี้วัดปีงบประมาณ 2562 ที่ชี้วัดผู้บริหารหน่วยงานระดับกระทรวงและกรม 152 หน่วยงาน และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด โดยกำหนดเป้าปริมาณขยะมูลฝอยที่จะต้องนำไปกำจัดลดลงร้อยละ 5 ลดถุงพลาสติกหูหิ้วลดลงร้อยละ 10 ลดแก้วน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งลดลงร้อยละ 10 และลดโฟมบรรจุอาหารลดลงร้อยละ 100
ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะขยายให้ดำเนินการเพิ่มเติมในหน่วยงานส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคและหน่วยงานราชการส่วนภูมิภาคระดับจังหวัด เพื่อให้การดำเนินการเต็มทุกพื้นที่ของส่วนราชการในปีงบประมาณ 2563