ไม่พบผลการค้นหา
'วิษณุ' ยอมรับที่ประชุม ศบค. เสนอลดเคอร์ฟิว แต่ยังไม่ไม่ชัดเจน ชี้สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศดีขึ้นมาก เป็นเพราะมีมาตรการควบคุม

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค. มอบหมายให้ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) พิจารณาความเป็นไปได้ที่จะลดเวลาเคอร์ฟิวจาก 24.00-04.00 น. ว่า มีการนำเสนอขึ้นมาในที่ประชุมแต่ยังไม่ใช่มติแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า จะสามารถเชื่อมโยงไปถึงหลังการผ่อนคลายในระยะที่ 3 ได้หรือไม่ว่า นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปหรือไม่นั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าไม่ใช้ต่อ เรื่องเคอร์ฟิวก็ไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าหากประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อ การนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้านั้นก็ไม่จำเป็นว่า เมื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว จะต้องบังคับใช้มาตรการทุกอย่าง

นายวิษณุ กล่าวว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นไปตามมาตรา 5 แต่ผลของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นไปตามมาตรา 9 ซึ่งมีอยู่ 7-8 ข้อ ดังนั้นจะเลือกใช้เป็นบางข้อก็ได้ เหมือนที่ผ่านมาเราประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตาม มาตรา 5 และประกาศใช้มาตรา 9 เกือบทุกข้อ ซึ่งข้อแรกคือเรื่องเคอร์ฟิว ดังนั้นถ้าต่อไปเราประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอาจจะเลือกบังคับใช้ตามมาตรา 9 เพียงบางข้อก็ได้ เช่น เคอร์ฟิวไม่มีก็ได้หรือจะลดเวลาเคอร์ฟิวให้สั้นลงก็ได้ หรือเวลานี้ห้ามชุมนุม ต่อไปอาจจะไม่ห้ามก็ได้ ซึ่งนี่คือตัวอย่าง ที่ยกให้ฟังเพื่อให้เห็นว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กับการบังคับใช้มาตรการใดบ้างเป็นคนละส่วนกัน แต่ถ้าไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ใช้ข้อไหนไม่ได้เลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความพอใจในภาพรวมแล้วบอกต่อที่ประชุม ศบค. อย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า สถิติดูดีขึ้น ถ้าดูตัวเลขของสถิติแต่ทางการแพทย์ยืนยันว่า ที่สถิติดีขึ้นนั้นเป็นผลจากการควบคุม แต่ถ้าเราไม่ควบคุม สถิติก็อาจจะแย่ลงก็ได้ ดังนั้นขอให้ตรึงไว้สักระยะหนึ่ง แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลงตามลำดับ 

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนเรื่องโรงเรียน ที่ได้ประกาศปิดโรงเรียนและให้เรียนออนไลน์ และเลื่อนเปิดภาคเรียนนั้นเป็นคนละเรื่องกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นมติ ครม. ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ซึ่งเรื่องการเปิดเรียนนั้นนายกรัฐมนตรีได้ย้ำในที่ประชุมศบค. ว่า ขอให้ใช้คำว่าระบบเรียนทางไกล ไม่ควรใช้คำว่าเรียนออนไลน์ เพราะการเรียนทางไกล อาจจะใช้ระบบทางโทรศัพท์ และยังสามารถเรียนผ่านโทรทัศน์ หรือดาวเทียม ก็มีหลายวิธี เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เขาก็สอนทางไกลกันมาอยู่แล้วตั้งแต่ยังไม่มีโควิด-19 ก็เป็นการเรียนทางไกลโดยซื้อตำรามาอ่านเรียนเองที่บ้าน

"พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า ไม่ได้แปลว่าจะต้องทำตลอดไปและไม่ได้แปลว่าจะต้องทำทุกวิชา และไม่ได้แปลว่าจะต้องทำกับเด็กทุกคน ระดับอนุบาลอาจจะอย่างหนึ่ง ระดับประถมอีกอย่างหนึ่ง และอาจจะเลือกเรียนเป็นบางวิชา เพื่อลดความเสี่ยง ลดความแออัด เพื่อให้เหลือน้อยชั่วโมง ซึ่งตอนนี้โรงเรียนที่ขอเปิดก่อน อาทิ โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนจุฬาภรณ์ ที่จะขอเปิดก่อนในเดือนมิถุนายนนี้ หรือถ้าโรงเรียนไหนมีการเตรียมความพร้อมอย่างเป็นระบบ โดยผ่านการประเมินจากกระทรวงสาธารณสุข" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 26 พ.ค. เลขา สมช. จะรายงานในนาม ศบค. เพื่อขอต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และต่อหรือไม่ต่อเคอร์ฟิวเท่านั้น ส่วนมาตรการผ่อนคลายอื่นๆ ไม่เคยเข้าครม. จะมีการเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ซึ่งเป็นไปตามอำนาจของผอ.ศบค. ดังนั้น สมช. จะประชุมในคณะย่อยในวันที่ 27 พ.ค. ก่อนที่จะเสนอเข้าที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในวันที่ 29 พ.ค. เพื่อที่จะมีผลในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ถัดไป" นายวิษณุ กล่าว