วันนี้ (30 พ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ขณะอยู่ระหว่างการพิจารณา กกต.ชุดใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่เกิน 3 เดือนได้จำได้ แต่ กกต.ชุดใหม่ถูกกำหนดให้มีคุณสมบัติขั้นสูงและผ่านกลไกการสรรหา ที่ กรธ.เชื่อว่าออกแบบมาอย่างดี และมีกรรมการสรรหาที่มีสเปคสูงยิ่งกว่า ทำให้น่าเชื่อได้ว่า จะมี กกต.ชุดใหม่ที่มีคุณสมบัติพร้อมและความสามารถเป็นเลิศในการจัดการกับภารกิจตรงหน้า
นอกจากคุณสมบัติของ ว่าที่ กกต. และกรรมการสรรหา ยังมีกฎหมายลูกที่ควบคุม กกต.ชุดใหม่ในการปฎิบัติตัว และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยใน พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.ระบุว่า ตลอด 7 ปีที่ดำรงตำแหน่ง กกต.ทั้ง 7 คน ไม่สามารถไปร่วมศึกษาเล่าเรียนหลักสูตรใดๆ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรปริญญาตรี โท เอก หรือ หลักสูตรพิเศษของหน่วยงานใดๆ เพราะเหตุผลคือ จะทุ่มเทให้กับการงานอย่างเต็มที่ ไม่ไปสร้างคอนเนคชั่นกับใคร และ หากจะมาเป็นต้องฉลาดแล้ว ไม่ต้องไปเรียนอะไรอีก
ส่วนในร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดว่า ตลอดระยะเวลา 5 - 7 เดือน นับแต่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง จนกระทั่งสามารถประกาศผลได้ ห้าม กกต.ทุกคนเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภารกิจส่วนตัว ได้รับเชิญ หรือการทำงาน เพราะต้องการให้ กกต.อยู่ในประเทศเพื่อจัดการเลือกตั้ง
ส่วนการประชุมของ กกต.เพื่อการลงมติในเรื่องสำคัญของ พ.ร.ป ว่าด้วย กกต. ก็กำหนดว่าจะต้องอยู่ครบคน ห้ามลา ห้ามป่วย ห้ามขาดประชุม ห้ามงดออกเสียง หากใครจะงดออกเสียงให้ลาออกจากการเป็น กกต. และหากพรรคการเมืองหรือผู้สมัครสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง กกต.ต้องตอบเป็นหนังสือและเผยแพร่ต่อสาธารณะภายใน 30 วัน หากไม่ตอบ ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม
นายสมชัย กล่าว ถามว่า ร่างกฎหมายที่ออกมาดีไหม คำตอบถือทุกเรื่องเป็นเหรียญสองด้าน แต่อยากจริงๆ ให้คนร่างมาทำด้วยเรื่องเหล่านี้ คนร่างไม่ได้ทำ คนทำไม่ได้ร่าง และอยากให้ดูย้อนกลับไปยังองค์กรอื่นๆด้วย ห้ามเรียน ห้ามไปต่างประเทศห้ามขาดประชุม ทำได้หรือไม่