นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคหัดในพื้นที่จังหวัดยะลา ว่า สถานการณ์ในภาพรวมรวมเริ่มดีขึ้น วัคซีนเริ่มมีผลกับกลุ่มเป้าหมายแล้ว ทำให้สถานการณ์การเกิดโรคหัดลอน้อยลงตามลำดับ โดยสถานการณ์ผู้ป่วยรายใหม่จากเดิมที่เป็นเลขสองหลัก วันที่สูงที่สุดทั้งจังหวัดประมาณ 50 รายต่อวัน เมื่อสองวันที่ผ่านมาพบผู้ป่วยประมาณ 6 ราย แสดงว่าแผนที่กำลังทำอยู่ได้ผล โดยตัววัคซีนเองได้ผลชัดเจนในร่างกายมนุษย์ต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ หมายความว่าฉีดวัคซีนวันนี้ 3 วันจะมีภูมิต้านทานขึ้น และอีก14วัน ถึงจะมีภูมิต้านทานเพียงพอที่จะไม่เป็นโรค เพราะฉะนั้น ผู้ป่วยที่เข้ามาช่วงนี้ก็หมายความว่าจะเป็นในกลุ่มที่คล้ายๆ กับภูมิต้านทานยังไม่เต็มที่ จะมีอาการที่ไม่รุนแรงเหมือนกับช่วงแรกๆ ที่ระบาดซึ่งเสียชีวิตถึง 10 ราย
ทั้งนี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่พบผู้ป่วนเสียชีวิตเพิ่ม แต่ยังต้องเฝ้าระวังอยู่ ผู้ป่วยที่อยู่ห้องผู้ป่วยที่เป็นประเภทอาการหนักก็ลดลง มาตรการที่ทำโดยการเคาะประตูบ้านเด็ก 9 เดือน - 5 ขวบ ตอนนี้ฉีดวัคซีนไปได้ประมาณร้อยละ 80 ยังเหลืออีกประมาณ 1,000 กว่าคน จะเร่งฉีดภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งคงต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับผู้ปกครองในช่วงนี้ด้วยว่าต้องเร่งฉีด เด็กที่ยังไม่ได้ฉีดยังเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดและอาจเสียชีวิตได้
ส่วนมาตรการต่อไปที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำเสนอ คือ "มาตรการเคาะประตูโรงเรียน" ในข้อมูลส่วนหนึ่งที่ได้ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มอายุ 5 ขวบ - 7 ขวบมีอยู่ประมาณร้อยละ 10 จะต้องทำเรื่องรณรงค์โดยการเก็บตกเด็กอายุ 5 - 12 ปี เด็กเหล่านี้อยู่ในโรงเรียนเป็นหลัก โดยจะต้องเก็บตกเด็กที่ไม่เคยมีประวัติฉีดวัคซีน คาดจะดำเนินการได้ประมาณสัปดาห์หน้า เป้าหมายทั้งจังหวัดที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนประมาณ 40,000 กว่าคน
นายแพทย์สงกรานต์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เหลือเด็กที่อาการหนักแค่รายเดียว เฝ้าระวังในห้อง ไอซียูที่ ร.พ. ศูนย์ยะลา แต่บางส่วนจะมีความยาก บางส่วนต้องทำความเข้าใจเรื่องวัคซีน อย่างเช่น ในพื้นที่บันนังสตา ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ร่วมประชุมกับนายอำเภอได้เน้นยำทุกภาคส่วน อีกทั้งผู้นำศาสนา จะลงไปทำความเข้าใจในพื้นที่จะได้ช่วยกันให้เด็กมีภูมิต้านทานโรคหัด ถ้าฉีดรอบนี้ได้ผล อาจจะไม่มีโรคหัดเกิดขึ้นอีกเลยในช่วง 2-3 ปี คิดว่าปีนี้ (61) เป็นปีแรกที่ฉีดวัคซีนได้มีความครอบคลุมสูงที่สุดในรอบ 3 ปี โดยที่ผ่านมาสามารถฉีดวัดซันป้องกันโรคหัดได้แค่ปีละประมาณร้อยละ 50-60 แต่ปีนี้ (61) ช่วงเกิดการระบาด สามารถฉีดวัคซีนได้ถึงร้อยละ 80 เพิ่มเป็น 2 เท่าจาก 3 ปีก่อน ซึ่งสถานการณ์นี้ยังรับมือไหว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง