ไม่พบผลการค้นหา
"จาตุรนต์ ฉายแสง" ยกทีมซบพรรคไทยรักษาชาติ ปัดขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย ด้าน "ภูมิธรรม เวชยชัย" ไม่หวั่นแกนนำทยอยออก เชื่อเพื่อไทยยังได้ ส.ส.สูงสุด

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าอำลา พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย หลังได้ยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อไปสมัครสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ 

โดยนายจาตุรนต์ย้ำว่า การลาออกจากพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีความขัดแย้งใดกับใคร แต่ตนมาอำลาเพราะอยู่ด้วยกันมานานจึงมาลาออก จึงไปมาลาด้วยดี ส่วนตัวลาออกเพราะด้วยสถานการณ์จำเป็นที่จะต้องไปทำงานที่พรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งยอมรับว่าได้ลาออกพร้อมกับนางฐิติมา ฉายแสง และนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง ซึ่งจะไปร่วมงานที่พรรคไทยรักษาชาติด้วย

ด้านนายภูมิธรรม ระบุว่า ล่าสุดมีแกนนำพรรคชาติไทยรวมถึง ส.ส.ของพรรค ได้ยินใบลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้วประกอบด้วย นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวุฒิพงศ์และนางฐิติมา ฉายแสง น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย การลาออกของบุคลากรเหล่านี้พรรคเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนเพื่อพวกเราแต่เขียนขึ้นมาเพื่อกลุ่มอื่น ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย การลาออกของนายจาตุรนต์เพื่อไปทำภารกิจในระบบรัฐสภา ซึ่งเป็นการจากกันด้วยดี ส่วนการลาออกของ น.ส.อนุตตมา ไม่กระทบกรรมการบริหารพรรค เพราะกฎหมายกำหนดให้มีกรรรมการบริหารพรรคได้15 คน

ส่วนแกนนำพรรคเพื่อไทยลาออกไปหลายคนนั้น ยืนยันพรรคเพื่อไทยยังมียบุคลากรคุณภาพทางการเมืองจึงไม่ต้องกังวลที่ยังเหลืออยู่ยังมากพอ และยังเชื่อมั่นว่าพรรคจะได้ ส.ส.สูงสุดในสภา ส่วนจะเป็นการหาเสียงแข่งกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่ขัดแย้งเพราะพรรคไทยรักษาชาติ พรรคอนาคตใหม่หรือพรรคที่ยึดแนวทางประชาธิปไตย

เมื่อถามถึง การที่แกนนำพรรคเพื่อไทยลาออก เพราะเกรงว่าพรรคเพื่อไทย จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อยลง นายภูมิธรรม ระบุว่า มีหลายเหตุผล เพราะกติกาได้กำหนดมาให้พวกพ้องตนเอง ซึ่งพรรคไม่ใช่พวกพ้องจึงต้องหาทางออก

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล ระบุถึงการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่16/2561 ให้ขยายเวลาประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งว่า กกต.แบ่งเขตไว้แล้วเหลือเพียงขั้นตอนลงนามเท่านั้น คำสั่งที่ออกมาต้องการแทรกแซงการแบ่งเขตของ กกต. คิดว่า กกต. ควรทำตามอำนาจตัวเองไม่ต้องไปคำนึงถึงคำสั่งดังกล่าวถ้ากกต.ทำตามนี้ก็จะได้รับเสียงชื่นชม