ไม่พบผลการค้นหา
ครม.มอบอำนาจกระทรวงดิจิทัลฯ สู้คดี 'ดาวเทียมไทยคม 5' แทนรัฐบาล ผ่านกระบวนการอนุญาโตฯ หลังปลดระวางก่อนวันครบสัญญา 1 ปี

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2563 ว่า สืบเนื่องจากดาวเทียมไทยคม 5 ได้เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคจนไม่สามารถกู้ระบบคืนหรือซ่อมแซมได้ จึงปลดระวางเมื่อ 26 ก.ย. 2563 ก่อนวันหมดสัญญา 10 ก.ย. 2564 ครม.จึงมีมติอนุมัติมอบอำนาจให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ดำเนินคดีโดยกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการและหรือกระบวนการทางศาล เพื่อเรียกร้องให้บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปฏิบัติตามข้อสัญญา

รวมทั้งการเรียกร้องให้ดำเนินการจัดหาดาวเทียมทดแทนดาวเทียมไทยคม 5 โดยการขอให้ชดใช้ราคาแทนการจัดหาดาวเทียมทดแทนดาวเทียมไทยคม 5 การชำระค่าตอบแทนต่างๆ ตามสัญญา เบี้ยปรับ และค่าเสียหายต่างๆ ตามรายละเอียดที่ตรวจสอบได้และประสงค์จะเรียกร้องแทนรัฐบาล ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ ได้สรุปประเด็นหลักๆ ในการชี้แจงของ บมจ.ไทยคม ดังนี้

1.การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทรับประกัน กรณีเหตุขัดข้องทางเทคนิคของดาวเทียมไทยคม 5 โดยกระทรวงดิจิทัลฯ ให้ บมจ.ไทยคม ดำเนินการเจรจาต่อรองค่าเสียหายกับบริษัทผู้รับประกันภัย ซึ่งการพิจารณาวงเงินค่าสินไหมทดแทนของบริษัทผู้รับประกันภัยใกล้เสร็จสิ้นแล้ว

2.บมจ.ไทยคม จะต้องจัดสร้างดาวเทียมทดแทนตามสัญญา กรณีดาวเทียมไทยคม 5 ที่ปลดระวางโดย บมจ. ไทยคม ชี้แจง ได้จัดสร้างดาวเทียมหลักและสำรองในกรณีที่ดาวเทียมหลักเสียหายถูกต้องครบถ้วน (2 ชุด) ตามข้อกำหนดของสัญญาแล้ว จึงไม่มีแผนในการจัดสร้างดาวเทียมเพิ่มเติม ซึ่งข้อพิพาทนี้ยังไม่มีข้อยุติ กระทรวงดิจิทัลฯ จึงต้องนำข้อพิพาทดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ ตามสัญญา

ทั้งนี้ บมจ.ไทยคม รายงานผลประกอบการเมื่อสิ้นไตรมาส 2/2563 กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า ครึ่งแรกของปี 2563 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,838 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 27% เนื่องจากการลดลงของบริการดาวเทียมและบริการอินเทอร์เน็ตและสื่อ หรือลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน 25.6% และ 83.7% ตามลำดับ

ส่วนในไตรมาส 2/2563 มีกำไรสุทธิ 498 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้รายได้จากเงินชดเชย ประกอบกับการลดลงของค่าเสื่อมราคาของดาวเทียม จากการปลดระวางดาวเทียมไทยคม 5 รวมทั้งการด้อยค่าของดาวเทียมดวงอื่นๆ ในปี 2562 โดยกำไรสุทธิในไตรมาส /2563 เพิ่มขึ้น 1.51 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิไตรมาส 1/2563 ที่มีจำนวน 198 ล้านบาท 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: