วันที่ 11 พ.ย. 2565 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางกลับหลังขึ้นกล่าวให้กำลังใจ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในงานสัมมนา "พลังประชารัฐ พลังคนสร้างชาติ เพราะมีคุณ จึงมีพรรค"
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวแนะนำ สัญญา สถิรบุตร ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ให้สมาชิกพรรครับทราบ โดยระบุว่าเป็นบุคคลสำคัญ ที่จะมาช่วยเหลือพรรค โดยไม่ได้หวังตำแหน่งอะไร จากนั้นพล.อ.ประวิตร กล่าวกับ ส.ส.ว่า ก่อนที่จะให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พูดขอเวลาพูดกับสมาชิกทุกคนทั้งใหม่และเก่าที่มาเยอะแยะ ที่จะเสวนาเรื่องต่างๆของพรรค และรับฟังกกต.
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เห็นมาร่วมงานอย่างนี้แล้วดีใจที่พรรคจะเข้มแข็งต่อไปในอนาคต การที่พรรคจะเข้มแข็งเพราะเราทุกคนช่วยกัน ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งจะนำพาพรรคไปได้คนเดียวเป็นไปไม่ได้ ทุกคนต้องร่วมมือกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ข้ามความขัดแย้งทั้งหมด และขอต้อนรับสมาชิกพรรคที่อยู่กับเราเพื่อจะรับการเลือกตั้งในต้นปีหน้า ที่ผ่านมาพรรค พปชร.ร่วมมือร่วมใจกันทำให้เป็นสถาบันการเมืองที่มั่งคง มั่งคั่ง สร้างประโยชน์ให้ประชาชน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พรรคพปชร.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และตลอดเวลา3 ปีที่ผ่านมาผ่านวิกฤตและอุปสรรคไปได้ด้วยดี ด้วยความสามารถของรัฐมนตรี และพรรคการเมืองทั้ง3-4 พรรคที่ช่วยจัดตั้งรัฐบาล ก็ผ่านไปได้ และจะสร้างพรรค พปชร.ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นต่อไป โดยตนได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค จากสมาชิก ไม่ว่าจะสมัครใจหรือไม่สมัครใจก็ตาม มาถึงช่วงนี้สมาชิกพากันปรบมือชอบใจ ทำให้พล.อ.ประวิตร เอ่ยแซวว่า ปรบมือนี่อาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้
พล.อ.ประวิตร ระบุต่อว่า ตนได้รับเลือกและตระหนักอยู่เสมอว่าเมื่อ ส.ส.วางใจ ตนก็วางใจ ส.ส.ว่าจะไปด้วยกันด้วยความเป็นหนึ่งเดียวของพรรค จึงตั้งใจมุ่งมั่นทำงานเสริมสร้างความเข้มแข็งให้พรรคเต็มที่เท่าที่ทำได้ ย้ำว่าทุกคนต้องร่วมมือกัน เพราะพรรคไม่ได้อยู่คนเดียวโดดเดี่ยว แตาเราร่วมกันและข้ามความขัดแย้งทั้งหมด
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราวางโครงสร้างการทำงานพรรคออกเป็น4 ภาค มีหัวหน้าภาคและเลขาฯภาค ให้เลือกกันเองตามหลักประชาธิปไตย และนำเสนอไอเดียที่เป็นประโยชน์และนำมาขับเคลื่อนเป็นนโยบายพรรค ตนเป็นรองนายกฯและหัวหน้าพรรค ได้ร่วมกับรัฐบาลดำเนินการตามนโยบายให้ประชาชนในหลายเรื่อง บริหารจัดการน้ำ ทำให้น้ำไม่ท่วม กทม.เหมือนปี 2554 แต่ที่ท่วมเพราะน้ำมากกว่าปี 54 เพราะน้ำมาก ที่ผ่านมาเราเป็นพรรคที่ทำงานให้ประชาชนโดยตรงเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทั้งส่วนระบบคมนาคม โครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟฟ้า และท่าเรือ เป็นต้น ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า วันนี้คนที่ผ่านการกลั่นกรองคัดเลือกเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ต้องภูมิใจที่มีคุณสมบัติของพรรค ได้รับเลือก ขอให้ขยันลงพื้นที่ ดูแลประชาชนอย่างจริงจังและใกล้ชิดให้มากที่สุด ส่วน ส.ส.เก่า จะได้สิทธิลงสมัครได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกรรมการสรรหา เพราถือว่าผ่านการทำงานให้พรรคมาตลอด 4 ปี ย่อมรู้ว่าพรรคดำเนินการอย่างไร ให้ประโยชน์และเสียประโยชน์อย่างไร
"ขอให้ทุกคนลงพื้นที่ตั้งแต่ตอนนี้ ให้ทุกคนทุ่มเทเสียสละเสียสลทำการเมืองเพื่อประโยชน์อย่างแท้จริง ทำเพื่อประเทศชาติเราให้พัฒนา เจริญรุ่งเรืองต่อไป เราจะต้องทำให้ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของ ส.ส.ทุกคนอยู่ดีกินดี ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในพรรค พปชร.และเชื่อมั่นใน ส.ส. และอย่าชักช้าให้ลงพื้นที่ เพราะถึงอย่างไรก็เลือกตั้งแน่นอน ไม่มีทางเป็นได้ที่จะเป็นอย่างอื่น"
พล.อ.ประวิตร กล่าวทิ้งท้ายว่า เราเชื่อมั่น และมั่นใจส.ส.และเชื่อมั่นในพรรค เราพร้อมสนับสนุนพื้นที่และหาเสียง เราพร้อมใจกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจด้วยความรักความสามัคคี ช่วยเกลือเกื้อกูลนำพาพรรคให้ก้าวเดินอย่างมั่นคงต่อไป เพื่อความสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการหาเสียงและรับเลือกตั้งทุกคน และหวังว่าทุกคนจะต้องได้เป็น ส.ส.ทุกคน
จากนั้นจึงเดินทางกลับในเวลาประมาณ 15.30 น. โดยก่อนเดินทางกลับได้มีการพูดคุยทักทาย และถ่ายรูปร่วมกับ ส.ส. ที่มาเข้าร่วม ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่า พรุ่งนี้จะมาอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่มาแล้ว ผมมีแขก
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพบว่า ส.ส. ที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายพรรคก็มาร่วมงานสัมมนานี้ด้วย อาทิ พัชรรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ,ธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม, จักรพันธุ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม., กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ อย่าง ศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา และ ส.ส.สมุทรปราการ ที่มีรายงานว่าจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ก็มาร่วมสัมมนาเช่นกัน