ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ ส.ต.ต นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ขี่บิ๊กไบก์ยี่ห้อ ดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ เข้าชนในระหว่างที่ พญ.วราลัคน์ กำลังข้ามทางม้าลาย ที่หน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถ.พญาไท
โดยพิธีพระราชทานเพลิงศพ พญ.วราลัคน์ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล บิดาของหมอกระต่าย พร้อมด้วยครอบครัวหมอกระต่าย ได้เคลื่อนย้ายร่างหมอกระต่ายออกจากศาลา 3 เพื่อเวียนรอบเมรุจำนวน 3 รอบ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
จากนั้น พญ.ลลนา ก้องธรนินทร์ หรือหมอเจี๊ยบ เพื่อนสนิทของหมอกระต่าย เป็นผู้แทนอ่านประวัติของหมอกระต่าย โดยระบุถึงความดีความจริงใจของหมอกระต่าย
ด้าน พระนรวิชญ์ ผู้ต้องหาที่ขับขี่บิ๊กไบก์ชนหมอกระต่ายเสียชีวิต เดินทางมาร่วมพิธีศพด้วย นอกจากนั้นยังมี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. มาร่วมพิธีด้วย และวันที่ 27 ม.ค.นี้ เวลา 07.00-08.00 น. จะมีพิธีเก็บอัฐิของหมอกระต่าย
นพ.อนิรุทธ์ บิดาหมอกระต่าย ยืนยันว่า จนถึงวันนี้ยังโศกเศร้า แต่เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ครอบครัว จะได้ร่วมกันส่งดวงวิญญาณของบุตรสาว โดยยืนยันว่า ตนและหมอกวาง ลูกสาวคนเล็ก จะสานงานต่อจากหมอกระต่าย ทำงานเป็นแพทย์ดูแลรักษาดวงตาผู้เจ็บป่วย โดยเฉพาะงานอาสาสมัคร ที่หมอกระต่าย ออกหน่วยตรวจให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
ส่วน พระนรวิชญ์ ที่บวชอุทิศผลบุญให้กับบุตรสาวนั้น ยอมรับว่าจนถึงตอนนี้ แต่ตนและครอบครัวยังมีความโกรธ แต่พร้อมที่จะให้อภัย สำหรับคดีอยากให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามเนื้อผ้า ให้ความเป็นธรรมและไม่ประวิงเวลา และขอให้กรณีของบุตรสาวที่ข้ามทางม้าลายถูกรถจักรยานยนต์พุ่งชนเสียชีวิต เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนถนนอย่างจริงจัง
มีรายงานว่า พระนรวิชญ์ หรือ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) และพระนิคม หรือ ร.ต.ต.นิคม บัวดก ผบ.หมู่ จร.สน.ปทุมวัน ซึ่งเป็นพ่อ ภายหลังเข้าร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ หมอกระต่าย ได้เดินทางกลับมาถึงวัดปริวาสราชสงคราม เพื่อทำพิธีลาสิกขา เมื่อทำพิธีเสร็จสิ้นได้เปลี่ยนใส่ชุดขาวที่ได้เตรียมไว้
จากนั้นเมื่อเวลา 16.05 น. ส.ต.ต.นรวิชญ์ พร้อมด้วย ร.ต.ต.นิคม ได้เดินทางออกจากวัดปริวาสราชสงคราม เพื่อกลับไปยังที่พัก โดยมีเพื่อนตำรวจมารอรับ โดยนักข่าวได้ถาม ร.ต.ต.นิคม อีกครั้ง โดยบอกว่าหลังจากนี้จะกลับบ้านไปถือศีล 5 ที่บ้าน อีก 3 วัน ส่วนคดีความขอให้เป็นไปตามกฎหมาย และในฐานะคนเป็นพ่อ ก็ให้กำลังใจลูก ให้สู้ๆ บอกเขาตลอด ส่วนเขาจะสู้ขนาดไหนก็อยู่ที่เขา แต่ช่วงนี้เขาก็จะหนักอยู่
ส่วน ส.ต.ต.นรวิชญ์ ตอนแรกไม่ตอบคำถามใดๆ แต่เมื่อนักข่าวถามสั้นๆว่า สภาพร่างกายดีขึ้นบ้างไหม ส.ต.ต.นรวิชญ์ ตอบว่า ดีขึ้นแล้วครับ และเมื่อถามต่อว่า ตอนวางดอกไม้จันทร์ ได้ขอให้หมอกระต่ายอโหสิกรรมให้หรือไม่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ตอบสั้นๆ ว่า "บอกครับ" จากนั้นทั้งคู่ก็ขึ้นรถเดินทางกลับที่พักในทันที