ไม่พบผลการค้นหา
ตำรวจโคราชฝากศาลขังโชเฟอร์ขับรถทัวร์ 18 ศพ พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนพยาน-หลักฐาน แจ้งข้อหาบริษัทรถทัวร์ภายใน 2 สัปดาห์

จากกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์นำเที่ยวจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เสียหลักพลิกคว่ำขณะเดินทางกลับจากไปท่องเที่ยวทะเลที่จังหวัดจันทบุรี บริเวณถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-ราชสีมา ทางลงเขาวังน้ำเขียว ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 32 คน และเสียชีวิต 18 ราย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด วันนี้ (25 มี.ค.) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ความคืบหน้าคดีรถทัวร์ ของบริษัทกันเองทัวร์ จ.กาฬสินธุ์ พลิกคว่ำจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 32 คนนั้น ซึ่งภายหลังจากที่ตำรวจ สภ.อุดมทรัพย์ ได้ทำการจับกุมนายกฤษณะ จุฑาชื่น อายุ 44 ปี โชเฟอร์ขับรถทัวร์คันดังกล่าว ที่หลบหนีหลังจากเกิดเหตุ ได้ทำการสอบสวนและแจ้งข้อหาหนัก 3 ข้อหา คือ ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ก่อเหตุแล้วหนี และมีสารเสพติดในร่างกาย

ส่วนอีก 1 ข้อหาคือขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบจากสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาอีกครั้ง 

ขณะที่ ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ส่งตัวนายกฤษณะไปฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่วนการแจ้งข้อหาผู้ประกอบการรถทัวร์ บริษัทกันเองทัวร์ จ.กาฬสินธุ์นั้น ตนเองได้สั่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวน 1 ชุด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อทำการสอบพยานผู้ได้รับบาดเจ็บ พยานแวดล้อม และหาหลักฐานเพิ่ม รวมทั้งประสานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อตรวจพิสูจน์รถทัวร์คันเกิดเหตุอย่างละเอียด และเร่งให้สรุปสำนวนคดีให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อที่จะแจ้งข้อหาผู้ประกอบการเพิ่มเติม โดยเฉพาะข้อหาไม่ตรวจสภาพรถตามกำหนด และปล่อยให้พนักงานขับรถเสพสิ่งเสพติด ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากครั้งนี้

เปิดศูนย์รับเอกสารผู้บาดเจ็บ เตรียมเยียวยาเหยื่อรถทัวร์ 18 ศพ

นอกจากนี้ นายรัชโยธิน มีพันลม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าว จากอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้ผู้โดยสารซึ่งเป็นชาวจังหวัดกาฬสินธุ์เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บ 32 คน ทาง ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยได้ติดตามและสั่งการให้บูรณาการทำงานกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิดทั้ง คปภ.จ.กาฬสินธุ์, คปภ.จ.นครราชสีมา, คปภ.ส่วนกลาง และสำนักงานภาค 4 รวมทั้งรายงานข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุในรูปแบบแพลตฟอร์ม เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยอย่างเร่งด่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และบริษัทประกันภัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประสบเหตุ 

และเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ นายรัชโยธิน กล่าวว่า ได้กำหนดมอบเงินสินไหมให้แก่ทายาทและผู้รับประโยชน์ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว เบื้องต้น บริษัท อาคย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตัวเลขการช่วยเหลือมาแล้ว โดยได้พิจารณาอนุมัติจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและภาคบังคับในวงเงินความคุ้มครองสูงสุดให้แก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตทั้ง 18 รายๆละ 650,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,700,000 บาท

อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียชีวิตที่ทำประกันชีวิตกับบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) อีก 5 ราย รวมจำนวนเงิน 11,600,802 บาท นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 4 ราย ที่ทำประกันไว้กับบริษัทชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด มหาชน เป็นเงินสินไหมทดแทนสัญญาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล โดยบริษัทจะจ่ายให้รายละ 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 400,000 บาท ซึ่งจะมีกำหนดการมอบเงินช่วยเหลือในวันพรุ่งนี้ 27 มีนาคม 2561 เวลา 09.00-11.00 น.ที่บริเวณหน้าสำนักงาน คปภ.กาฬสินธุ์ เลขที่ 51/2 ถนนกุดยางสามัคคี ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

นายรัชโยธิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้คปภ.จ.กาฬสินธุ์ยังได้เปิดศูนย์บริการรับเอกสารผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่มีความประสงค์ที่จะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนและค่ารักษาพยาบาล โดยสามารถนำบัตรบัตรประชาชน ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล และใบรับรองแพทย์ระบุอาการบาดเจ็บที่ระบุจำนวนวันที่นอนรักษา เพื่อรับค่าชดเชยค่ารักษาพยาบาลรายวัน ตามพรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ โดยจะได้รับการช่วยเหลือวันละ 200 บาท ไม่เกิน 20วัน ส่วนกรณีการสูญเสียอวัยวะนั้นจะได้รับเงินการช่วยเหลือ 200,000 บาท แต่หากพิการจะคุ้มครอง 300,000 บาท เท่ากับผู้เสียชีวิต

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :

รวบโชเฟอร์รถทัวร์แหกโค้งวังน้ำเขียว รับเสพยาบ้า