ไม่พบผลการค้นหา
จับแก๊ง 'โรแมนซ์สแกม' ปลอมเฟซบุ๊กหลอกให้เหยื่อโอนเงิน ผู้ต้องหาชายชาวต่างชาติ-คนไทย รวม 8 คน

จากรณีมีผู้เสียหายซึ่งอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ เข้ามาร้องเรียนในเฟซบุ๊ก “สุรเชษฐ์ หักพาล” ว่าถูกคนร้ายสร้างเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา และส่งข้อความมาหลอกลวงสร้างสถานการณ์หลอกลวงว่าส่งสินค้ามาจาก ต่างประเทศและติดค้างอยู่ที่สนามบิน ต้องโอนเงินมายังศุลกากรหรือเจ้าหน้าที่ขนส่งเพื่อจะนำสินค้าออก นอกจากนี้ยังมีคนไทยร่วมขบวนการทำหน้าที่เป็นคอลเซนเตอร์พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์

ล่าสุดพล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. , พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ทท. , พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท และผู้เกี่ยวข้อง มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ “ศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตารวจแห่งชาติ”ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ทท.3 และ เจ้าหน้าที่ตารวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต ออก สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด

จากการสืบสวนทราบว่าเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้าไปยังบัญชีของคนร้ายนั้นถูกกดออกจากบัญชีในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยคนที่มากดเงินเป็นหญิงชายไทย และชายต่างประเทศผิวสี จึงได้ออกสืบสวนติดตามตัวจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายมาหลบ ซ่อนตัวอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ต่อมาวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ได้เข้าไปแสดงตัวเป็น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบชายต่างชาติ ผิวสี จำนวน 6 คนประกอบด้วย

  • Mr. Eriri Franklin อายุ 23 ปี สัญชาติไนจีเรีย
  • Mr. Pedro Da Silva อายุ28 ปี สัญชาติ กินี-บิสเซา
  • Mr. Marcelinus Chijioke Mbakwe อายุ 32ปี สัญชาติไนจีเรีย
  • Mr. Ogochukwu John Obioha อายุ 30 ปี สัญชาติไนจีเรีย
  • Mr. Nnamdi Barnabas Agubosim อายุ 32 ปี สัญชาติไนจีเรีย
  • Mr.Emmanuel Kasujja อายุ 37 ปี สัญชาติอูกันดา 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของชายต่างชาติทั้งหมด พบมีพฤติกรรมสร้างเฟซบุ๊คปลอม และส่งข้อความไปหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้ (โรแมนซ์สแกม) โดยมีข้อความการสนทนาหลอกลวงหลายรายการ และพบ ผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก 1 รายซึ่งอยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งถูก Mr. Eriri Franklin หลอกลวงในลักษณะเดียวกัน จึงได้ ติดต่อไปยังผู้เสียหายให้ทำการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนและได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไว้ ทำการตรวจสอบหาผู้เสียหายเพิ่มเติม 

นอกจากนั้นยังพบว่า Mr.Emmanuel Kasujja เป็นชายต่างชาติ ซึ่งเป็นคนกดเงินจากบัญชีที่รับโอนเงินมาจากผู้เสียหาย และจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของชายชาวต่างชาติทั้ง 6 คนพบว่า เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายและอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตจึงได้จับกุมดำเนินคดี ตามกฎหมาย

ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับMr.EririFranklin,Mr.EmmanuelKasujja,น.ส.จริาภรณ์ พันนารัตน์ ซึ่งเป็น แฟน ของ Mr.Emmanuel Kasujja โดยทำหน้าที่กดเงิน และ น.ส.วิจิตตรา อัมศึก (เจ้าของบัญชีรับโอนเงิน) ในความผิด ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหา ทั้ง 4 คนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป