สภานิติบัญญัติของฮ่องกงประกาศถอนกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้จีนแผ่นดินใหญ่อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่รัฐบาลฮ่องกงเสนอกฎหมายนี้ในเดือนเม.ย. กลายเป็นชนวนให้ชาวฮ่องกงกว่า 2 ล้านคนออกไปชุมนุมต่อต้านกฎหมาย จนการประท้วงยืดเยื้อและรุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีนในปี 1997

เมื่อเดือน มิ.ย. แคร์รี หล่ำ ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงก็ออกมาประกาศระงับกฎหมายนี้ไปแล้ว หลังจากที่ผู้ชุมนุมออกมาต่อต้านหมายนี้นับล้านคน แต่ผู้ชุมนุมก็ยังยืนยันที่จะประท้วงต่อ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลถอนกฎหมายนี้อย่างถาวร เนื่องจากไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยมองว่าการระงับกฎหมายชั่วคราวจะเปิดโอกาสให้รัฐบาลแอบยื่นกฎหมายนี้ให้สภาผ่านร่างได้อีก

คอนนี ผู้ประท้วงวัย 27 ปี บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า การถอดถอนกฎหมายอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ “สายเกินไปแล้ว” และยังมีเงื่อนไขอีกหลายข้อที่รัฐบาลจะต้องทำ โดยเฉพาะปัญหาการใช้ความรุนแรงของตำรวจ

การชุมนุมต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ยื่นเงื่อนไขว่า พวกเขาจะชุมนุมต่อไป หากรัฐบาลไม่ทำตามเงื่อนไข 5 ข้อดังต่อไปนี้

1. ถอดถอนกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปให้จีนแผ่นดินใหญ่อย่างถาวร

2. ถอนคำพูดว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการก่อการจลาจล

3. ยกเลิกการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทั้งหมดที่ถูกจับ

4. ตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนการใช้ความรุนแรงของตำรวจ

5. ให้ประชาชนมีสิทธิในการเลือกตั้งผู้ว่าการฮ่องกงอย่างอิสระ โดยที่จีนแผ่นดินใหญ่ไม่แทรกแซง

การประท้วงในฮ่องกงช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นความท้าทายมากสำหรับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งระบุว่า การประท้วงเป็นการก่อการจลาจล ใช้ความรุนแรง เป็นคนอันตรายที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน อีกทั้งยังมีการกล่าวหาว่า มหาอำนาจตะวันตกอยู่เบื้องหลังการประท้วงนี้

แคร์รี หล่ำ เคยให้เหตุผลว่า กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นการอุดช่องว่างทางกฎหมาย เพื่อรักษาความสงบ และป้องกันไม่ให้ฮ่องกงกลายเป็นที่หลบหนีกบดานของอาชญากร แต่ชาวฮ่องกงจำนวนมากกังวล เพราะจีนมีชื่อเสียงด้านสิทธิมนุษยชนที่ไม่ดีนัก และกฎหมายนี้อาจเปิดช่องให้หมายหัวชาวฮ่องกงไปขึ้นศาลจีนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และประชาชนก็ไม่ไว้ใจว่าพรรครัฐบาล ซึ่งให้การสนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่นั้น จะขัดขืนต่อ ‘การขอความร่วมมือ’ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ปล่อยตัวฆาตกรผู้เป็นต้นเหตุของกม.ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

ชานถ่งไก หนุ่มชาวฮ่องกง ผู้ก่อเหตุฆาตกรรมแฟนสาว ระหว่างการเดินทางไปท่องเที่ยวในไต้หวัน แล้วเขาก็กลับฮ่องกงในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2018 ต่อมาชานถูกตำรวจฮ่องกงจับกุมด้วยข้อหาฟอกเงินในวันที่ 13 มีนาคม วันเดียวกับที่ทางไต้หวันพบศพแฟนสาวของเขา

ชานสารภาพว่าถอนเงินจากบัญชีของอดีตแฟนสาวเพื่อจ่ายค่าบัตรเครดิต และถูกตั้งข้อหาฟอกเงินและรับโทษจำคุกในเดือนเมษายน แต่ชานไม่ได้รับโทษจากการฆาตกรรม เนื่องจากตำรวจฮ่องกงระบุว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอในการเอาผิดเขา อีกทั้งเหตุเกิดในไต้หวัน และฮ่องกงก็ไม่มีข้อตกลงส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กับไต้หวัน รวมถึงมาเก๊า และจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย

ชานเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำในวันนี้ (23 ต.ค.) โดยวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เขาได้เขียนจดหมายไปหาแคร์รี หล่ำว่า พร้อมให้ทางการฮ่องกงส่งตัวเขาไปดำเนินคดีที่ไต้หวัน หลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในฮ่องกงแล้ว

ที่มา : BBC, CNA, Hong Kong Free Press