บริษัท LinkSure Network ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีดาวเทียมและอินเทอร์เน็ตของจีนเปิดตัวโครงการ LinkSure Swarm Constellation System ซึ่งเป็นโครงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบดาวเทียม เพื่อให้ประชากรบนโลกสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โครงการดังกล่าวจะประกอบด้วยดาวเทียม 272 ดวง ที่จะถูกปล่อยขึ้นสู่วงโครจรในแต่ละระดับและเคลื่อนที่อยู่รอบโลก และสำหรับดาวเทียมดวงแรกของโครงการที่ชื่อว่า LinkSure หมายเลข 1 จะถูกปล่อยจากฐานปล่อยดาวเทียมจิ่วฉวน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนในปี 2019 และภายในปี 2020 ทางบริษัทจะปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรอีก 10 ดวง
ทั้งนี้ ทางLinkSure กล่าวว่า ดาวเทียมดังกล่าวจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ
ที่ผ่านมาบริษัท LinkSure มีลูกค้าใช้บริการแอปพลิเคชัน WiFi Master Key ซึ่งเป็นแอปที่ให้บริการการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตในที่สาธารณะ และเป็น 1 ใน 10 ของแอปที่มียอดผู้ใช้สูงสุดในจีนด้วย ทั้งนี้ ทางบริษัทระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการอยู่กว่า 900 ล้านคนต่อเดือนทั่วโลก โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและสามารถแชร์อินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้อื่นได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนเข้าสู่ระบบรายบุคคล
รายงานของสหประชาชาติประจำปี 2017 ระบุว่า ประชากรทั่วโลกกว่า 3,900 ล้านคน ยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
สำนักข่าว ABC ของออสเตรเลียกล่าวว่า โครงการ LinkSure จะเป็นโครงการที่ตอบสนองความสนใจของผู้ที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต การขยายตัวของกิจการที่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก รวมถึงการเติบโตของเทคโนโลยีดาวเทียมของจีน ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จีนประกาศว่าจะสร้างดวงจันทร์เทียมจากดาวเทียม เพื่อทดแทนการใช้ไฟฟ้าในที่สาธารณะภายในปี 2020
ที่ผ่านมา จีนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายดิจิทัลทั่วโลก รวมไปถึงการพัฒนา 'เส้นทางสายไหมดิจิทัล' ที่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน ซึ่งเส้นทางสายไหมดิจิทัลจะช่วยให้จีนขยายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีในเศรษฐกิจดิจิทัลของจีนออกไปทั่วโลกได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ โครงการเส้นทางสายไหมดิจิทัลของจีน อาจจะไม่ได้ราบรื่นเหมือนเช่นโครงการเส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเล แม้ว่าจีนจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยี 5G ได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์สื่อสารในระบบเครือข่าย 5G ของบริษัทหัวเหว่ย ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีการสื่อสารของจีนในนิวซีแลนด์ เนื่องจากทางรัฐบาลนิวซีแลนด์มีความกังวลเรื่องความมั่นคงของชาติ
ทางหน่วยงานตวามมั่นคงของนิวซีแลนด์ออกมาเปิดเผยว่า 'โครงการดังกล่าวของบริษัท Spark New Zealand ซึ่งเป็นบริษัทด้านการคมนาคมสื่อสารของนิวซีแลนด์ที่ต้องการใช้อุปกรณ์เครือข่าย 5G ของหัวเหว่ยจากจีน อาจเสี่ยงและกระทบต่อความมั่นคงของชาติ'
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ไม่ใช่ชาติแรกที่แบนอุปกรณ์และเทคโนโลยีสื่อสารที่มาจากบริษัทเทคโนโลยีจากจีน ที่ผ่านมาออสเตรเลียก็ประกาศแบนเทคโนโลยี 5G จากบริษัทหัวเหว่ยและ ZTE ของจีนเช่นกัน ขณะที่ในสหรัฐฯ และในสหราชอาณาจักรก็มีความกังวลในการเข้าไปลงทุนเทคโนโลยี5G ของหัวเหว่ยเช่นกัน และยังรวมไปถึงเยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ก็ได้มีการตรวจสอบการทำงานของเทคโนโลยี 5G จากจีนนี้อย่างละเอียดเช่นกัน
ทีี่มา ABC / BBC / The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: