พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ทำหนังสือเตือนไปยังบีทีเอสแล้ว เพราะเหตุขัดข้องนี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน
"แต่ผมเชื่อว่า บีทีเอสก็ไม่อยากให้เกิด เพราะหากเขาวิ่งรถไม่ได้ เขาก็ขาดรายได้ โดยหนังสือเตือนระบุให้เร่งดำเนินการแก้ไข ซึ่งผู้บริหารบีทีเอสรับปากแล้วว่า วันเสาร์นี้ (30มิ.ย.) จะดีขึ้น ส่วนผลกระทบมีสาเหตุจากอะไรคงไม่ต้องไประบุมันหรอก ถ้าเป็นเรื่องเทคนิคเขาก็ต้องแก้กันไป กทม.ไม่ไปล้วงลูกหรอก ผมไม่ใช่วิศวกรด้วย ก็เลยไม่รู้ แต่บีทีเอสรับปากผมแล้วจะแก้ให้เสร็จภายในวันศุกร์นี้ เชื่อว่าวันเสาร์นี้จะเดินรถได้ไม่มีปัญหา"
เมื่อถามว่า เหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จำเป็นต้องลงโทษบีทีเอสหรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่าไม่ใช่เป็นการลงโทษหรอก
"ผมถามว่าบีทีเอสอยากหยุดมั้ย ถ้าหยุดบีทีเอสก็ขาดทุน ไม่มีใครอยากหยุดหรอก เราก็มีหนังสือเตือนไปแล้ว ถ้าวันเสาร์นี้ยังมีปัญหาอีก ก็จะต้องเรียกมาคุยเพิ่มเติมว่า จะแก้ปัญหาอย่างไร"
เมื่อถามว่า กทม.จำเป็นต้องศึกษาข้อกฎหมายเพื่อแก้ปัญหานี้หรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม. ตอบว่า ข้อกฎหมายมีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องศึกษา เพราะสัญญาเขียนไว้ชัดเจน
"สมมุติว่า กทม. บอกให้บีทีเอสวิ่งรถ แล้วใครจะมาวิ่งรถแทน ก็กระทบกันหมด ประชาชนก็เดือนร้อน บีทีเอสก็ขาดรายได้ ปัญหาต่างๆ เขามีไว้ให้แก้ ไม่ใช่มีไว้ให้กลุ้ม"
เมื่อถามว่า สัญญาสัมปทานบีทีเอสนี้เกิดขึ้นจากผู้ว่าฯ กทม. คนก่อน ที่เร่งรัดอนุมัติและมีระยะเวลาสัมปทานนาน จนอาจไม่สามารถควบคุมผู้รับสัมปทานได้หรือเปล่า ผู้ว่าฯ กทม. ตอบว่า ผมว่าควบคุมได้นะ เพราะเรามีข้อตกลง ถ้ามีปัญหาเราก็ช่วยกันแก้ไข ปัญหาทุกอย่างมีไว้ให้แก้ ยกเว้นจะไม่แก้
ขณะในช่วงบ่ายนี้ นายสกลธี ภัทรธิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ได้นัดหารือแนวทางแก้ปัญหาเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้าบีทีเอส ร่วมกับสำนักจราจรและขนส่ง กทม. และผู้บริหารบีทีเอส เบื้องต้นกล่าวว่า การแก้เงื่อนไขสัญญาสัมปทานกับบีทีเอสมีโอกาสทำได้แต่ยากมาก โดยจะเน้นไปที่กรณีเกิดเหตุขัดข้องในการเดินรถซ้ำซากแบบนี้ บีทีเอสจะชดเชยหรือเยียวยาให้ กทม. อย่างไรบ้าง รวมทั้งจะสอบถามสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ว่าเกิดจากระบบของบีทีเอสเอง หรือเหตุภายนอก แล้วจะมีวิธีป้องกันอย่างไรในอนาคต ส่วนการยกเลิกสัญญาสัมปทาน อันเนื่องมาจากเหตุขัดข้องนี้ คงทำไม่ได้ เพราะน่าจะต้องเป็นเหตุผลใหญ่จริงๆ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าตามกฎหมายระบุอย่างไร ต้องไปศึกษาก่อน
ด้าน นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ กล่าวว่า เหตุขัดข้องของรถไฟฟ้าบีทีเอส ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าขายในระยะสั้น เชื่อว่า ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวเข้าใจสถานการณ์ หากแก้ไขเร็วจะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์
นายกฯ สั่ง กสทช.แก้ไข รับรัฐบาลเป็นทุกข์
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ากังวลปัญหารถไฟฟ้าบีทีเอส ขัดข้องทั้งสัปดาห์จากคลื่นความถี่ 2400 MHz ซึ่งได้รับข่าวตั้งแต่เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศสแล้ว เนื่องจากมีการใช้งานมานาน และมีปัญหาในเรื่องระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งวันนี้ได้ให้ กสทช.มาแก้ปัญหาดังกล่าว อาจจะต้องมีการเสียค่าปรับหรือไม่ เพราะมีการเช่าช่วงและมีการใช้แบรนด์วิชต่างๆที่ขณะนี้มีการใช้คลื่นความถี่ 2300 MHz ที่อาจจะใกล้กับรถไฟฟ้า
นายกรัฐมนตรี ระบุ ส่วนตัวเข้าใจความเดือดร้อนของคนไทยทุกเรื่อง ซึ่งรัฐบาลเป็นทุกข์หมด โดยเฉพาะตนเองที่กินไม่ได้นอนไม่หลับ และอยากเล่าให้ฟังที่อังกฤษและฝรั่งเศสก็มีปัญหาเช่นกันในการประท้วงหยุดงาน เช่นรถไฟเคยวิ่ง 10 ขบวน เหลือ 8 ขบวน แต่การประท้วงนั้นก็ไม่ทำให้เดือดร้อนในวงกว้าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง