ศาลเมียนมาตัดสินลงโทษนายงาร์มินส่วย อดีตคอลัมนิสต์ให้จำคุก 7 ปีและปรับเงิน 100,000 จ๊าต หรือประมาณ 2,000 บาท ในข้อหายุยงปลุกปั่น หลังจากโพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์นางอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐเมียนมา จนถูกจับกุมเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่บ้านพักของเขา

นางเมย์ธันวิน ภรรยาของนายงาร์มินส่วย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียว่า สามีของเธอไม่ได้จ้างทนายความ และแก้ต่างให้ตัวเองในชั้นศาล เพราะรู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งเธอเห็นว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง เพราะเขาไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงของนางซูจีเสียหายแต่อย่างใด เป็นเพียงการเขียนโพสต์แนะนำนางซูจีเท่านั้น บทลงโทษที่เขาได้รับจึงไม่เหมาะสมกับสิ่งที่เขาทำเลย

นางเมย์ธันวินยังแสดงความเห็นต่อว่า เธอไม่รู้ว่าเมียนมากำลังมีรัฐบาลแบบไหนกันแน่ ทั้งที่รัฐบาลเคยระบุว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย แต่กลับทำตรงข้ามกับหลักการประชาธิปไตย

คำตัดสินดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่อย่างหลังจากที่เมียนมาถูกนานาชาติวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าพยายามจำกัดเสรีภาพสื่อ จากกรณีที่ศาลสั่งจำคุก 7 ปีนายวาโลน และนายจอซออู ด้วยข้อหาละเมิดข้อมูลของทางการ ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ส 2 คนกำลังค้นหาความจริงเกี่ยวกับการสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาที่หมู่บ้านอินดินในรัฐยะไข่

แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก นางซูจีเพิ่งออกมาแสดงความเห็นว่า การจำคุกผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์สไม่ใช่การจำกัดเสรีภาพสื่อ และเป็นไปตามหลักนิติรัฐ เนื่องจากพวกเขาถูกจำคุกเพราะทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่เพราะเป็นผู้สื่อข่าว

เมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา คณะมนตรีด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า กองทัพและเจ้าหน้าที่รัฐของเมียนมาทำ “แคมเปญทางการเมือง” โจมตีสื่อด้วยการจับกุมและดำเนินคดีด้วยกฎหมายที่คลุมเครือและกว้างเกินไป

รายงานเกี่ยวกับการดำเนินคดีสื่อมวลชนในเมียนมานับตั้งแต่ปี 2015 ที่พรรคเอ็นแอลดีของนางซูจีขึ้นมาเป็นรัฐบาล ระบุว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้สื่อข่าวจะทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่รู้สึกกลัว โดยองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนระบุว่า ช่วงปี 2017 มีผู้สื่อข่าวประมาณ 20 คนถูกดำเนินคดีในเมียนมา

ที่มา : Asian Correspondent, Radio Free Asia