ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ยืนยันไม่ใช้ กลไกอำนาจพิเศษ ม.44 แก้ปมบัตรเลือกตั้งใช้เขตเดียวเบอร์เดียวทั่วประเทศ ปัดมีใบสั่ง กกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งไร้โลโก้พรรค ส่วนการปลดล็อกการเมือง ส่อเค้าไม่ปลดล็อกให้ทั้งหมด เมินนักวิชาการเสื้อกั๊กวิจารณ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดทำบัตรเลือกตั้งโดยไม่พิมพ์โลโก้พรรคการเมือง แต่เป็นคำถามของผู้ที่เสนอความเห็นในที่ประชุมเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้น อยู่ กกต.ตัดสินใจ ส่วนตัวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกลไกการเลือกตั้ง จึงไม่สามารถใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อแก้ไขบัตรเลือกตั้ง หรือเปลี่ยนกลับมาใช้พรรคเดียวเบอร์เดียวเหมือนในอดีตได้ อำนาจตามมาตรา 44 ใช้ในกรณีปลดล็อกเท่านั้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องการปลดล็อกทางการเมืองว่าจะทำได้แค่ไหนอย่างไร หลังพ.ร.บ.ปรกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้วันนี้ ซึ่งการปลดล็อกต้องคำนึงถึงความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองด้วย ซึ่งในการประชุมกับพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ไปในฐานะหัวหน้า คสช. เพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศให้สงบเรียบร้อย

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังตอบโต้นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการด้านสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ว่าเป็นคนที่วิจารณ์โดยใช้ความคิดฝังหัวแบบเดิมที่มีมากว่า 40 ปี ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ให้ความสนใจ สิ่งที่ระบุว่าเกิดการประมูลสัมปทานคะแนนเสียงไม่ต่างจากระบอบทักษิณนั้น ยืนยันว่าการบริหารประเทศแตกต่างจากสมัยรัฐบาลทักษิณ เพราะหากการบริหารประเทศในสมัยนั้นดีและทำได้จริง คงไม่เกิดปัญหาอย่างทุกวันนี้

ส่วนกรณีที่นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือ โหร คมช. ทำนายว่าจะได้นั่งนายกฯต่อนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนจะตัดสินในการเลือกตั้ง โหรวารินทร์ไม่สามารถตัดสินใจแทนประชาชนได้

ขณะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าควรให้อิสระกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในการทำงาน แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม ให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นดำเนินไปอย่างสุจริต และ จากการพูดคุยกับสมาชิกพรรคการเมืองอื่น ๆ ก็มีความคิดเห็นตรงกันว่า ควรใส่โลโก้ และ ชื่อพรรคการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับประชาชนในการลงคะแนนเลือกตั้ง 

อีกทั้งส่วนตัวไม่ได้มองว่า การไม่ใส่โลโก้ และ ชื่อพรรคการเมือง จะทำให้พรรคของตนเองได้เปรียบ เพราะเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐมีความแข็งแกร่งพอในการลงเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เนื่องจากพรรคของตนเองเน้นการรับฟัง และ ศึกษาปัญหาของประชาชนเป็นหลัก เพื่อนำมาเป็นแนวทางออกนโยบายในการเลือกตั้งต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง