นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการดำเนินงาน ด้านสิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมให้กับผู้ประกันตน ของสำนักงานประกันสังคมที่ได้พัฒนาระบบบริการจัดการตามโครงการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาด้านทันตกรรม โดยที่ไม่ต้องสำรองจ่าย ตามนโยบายของกระทรวงแรงงาน โดยยอดล่าสุดเดือนมกราคม-เมษายน 2561 ที่ผ่านมามีผู้ประกันตนมาใช้บริการระบบทันตกรรมประกันสังคมแบบ “ไม่ต้องสำรองจ่าย” มียอดแล้วกว่า 742,950 ครั้ง สำนักงานประกันสังคมจ่ายประโยชน์ทดแทนไปแล้ว 501,044,620.07 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและความพึงพอใจในการเข้ารับบริการกรณีทันตกรรมของผู้ประกันตน และจากข้อมูลตัวเลขผู้ประกันตนที่มาใช้บริการกรณีทันตกรรมดังกล่าว จะเห็นได้ว่าจำนวนการใช้สิทธิของผู้ประกันตนมีปริมาณที่สูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกันตนที่มีรายได้น้อย เมื่อปรับเปลี่ยนเป็นระบบจ่ายตรงแล้ว พบว่า มีผู้ประกันตนที่ไม่เคยไปรับบริการกรณีทันตกรรมเลย เนื่องจากไม่มีเงินสำรองจ่าย สามารถเข้ารับการบริการกรณีทันตกรรมได้เพิ่มมากขึ้น
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันมีสถานพยาบาลเอกชน/คลินิกเข้าร่วมให้บริการแก่ผู้ประกันตนจำนวน 1,504 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงสถานพยาบาลรัฐทั่วประเทศ
ทั้งนี้ขอให้ผู้ประกันตนสังเกตป้ายสติ๊กเกอร์ที่ระบุว่า สถานพยาบาลแห่งนี้ให้บริการผู้ประกันตนกรณีทันตกรรม “ทำฟัน” ไม่ต้องสำรองจ่าย โดยผู้ประกันตนใช้สิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมในอัตราค่าบริการทางการแพทย์กรณีอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด ให้แก่ผู้ประกันตนโดยไม่ต้องสำรองจ่ายเงิน วงเงินไม่เกิน 900 บาทต่อคนต่อปี
สำหรับกรณีผู้ประกันตนเข้ารับบริการกรณีทันตกรรมในสถานพยาบาลที่ไม่ได้ทำความตกลงเรื่องการเบิกจ่าย ผู้ประกันตนสามารถนำหลักฐานประกอบด้วย ใบเสร็จรับเงิน ใบรับรองแพทย์ พร้อมสำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้ประกันตนมายื่นต่อสำนักงานประกันสังคมพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ เพื่อขอรับประโยชน์ทดแทนตามกฎหมายประกันสังคมได้ภายใน 2 ปีนับตั้งแต่วันที่เข้ารับบริการที่ระบุไว้ในใบรับรองแพทย์ ผู้ประกันตนมีปัญหาข้อสงสัยติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์บริการสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง
ภาพ : pixabay.com /mlarsson62
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: