ไม่พบผลการค้นหา
นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เยือนอังกฤษและฝรั่งเศส ก็มีเรื่องราวจำนวนมากที่เป็นจากไทยไปถึงลอนดอน โดยเฉพาะเรื่อง ‘2พี่น้อง อดีตนายกฯ’ นายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปกรุงลอนดอน ตรงกับช่วงวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ พอดี 21 มิ.ย. ทำให้มีการโยงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไปพบทั้งสองคนหรือไม่

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้พบ และไม่มีโอกาสได้พบใครเลย นอกจากทีมไทยแลนด์ นักธุรกิจไทย และข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ และยืนยันไม่เคยให้ใครมาพบ เมื่อทำงานเสร็จก็กลับบ้านหรือประเทศไทย เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่สมัยเป็น ผบ.ทบ.แล้ว หลังมีการเผยแพร่แผนที่จุดที่จัดงานวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ จุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีภารกิจ อยู่ในกรุงลอนดอนที่ไม่ได้ไกลกันมากนัก

แต่ปัญหาเรื่องวันเกิดไม่เท่ากรณีห้วงสัปดาห์ก่อนมีข่าวเรื่องพลังดูด ‘ก๊วน 3 ส.’ ที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลทักษิณ กลับมาปูทางดูดอดีตส.ส.ภาคอีสาน เพื่อฟอร์มทีมลงสนามการเมือง

แน่นอนว่าหนีไม่พ้น ‘พรรคพลังประชารัฐ’ เพราะทั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตนายทุนพรรคไทยรักไทย และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตหนึ่งในกุนซือหลักของนายทักษิณ ได้เดินสายพบอดีตส.ส.อีสานหลายคน


ประยุทธ์ สมคิด สนธิรัตน์ ประชารัฐ 0180613102916.jpg

ซึ่งทั้ง ‘2ส.’ มีความสนิทกับ ‘ส.สมคิด’จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ มาอยู่แล้วในอดีต โดยเมื่อ 1 เดือนก่อน ก็เริ่มมีกระแสข่าวว่า ‘สุริยะ-สมศักดิ์’ เดินสายพบ อดีตส.ส.เหนือ-อีสาน ที่เป็น ส.ส.เบอร์หนึ่ง เบอร์รอง โลว์โปร์ไฟล์ เพื่อให้มาร่วมทัพฟอร์มทีมลงสนามการเมือง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27มิ.ย.ที่ผ่านมา ‘สุริยะ-สมศักดิ์’ ได้แถลงจุดยืน พร้อมกับอดีต ส.ส.กว่า 50 คน จากพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย ภูมิใจไทย ที่จะมาร่วมพรรคพลังประชารัฐ หลังได้พูดคุยกับ ‘2ส.-1อ.’ นายสมคิด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ นานอุตตม สาวนายน รมว.พาณิชย์ พร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกฯต่ออีกสมัย อย่างเต็มปากเต็มคำ และมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐ จะได้จัดตั้งรัฐบาลด้วย

“ผมไม่ได้ชอบการรัฐประหาร เพราะเคยโดนมาตอนเป็นรัฐมนตรี โดนตราหน้าจากสังคม โดนคดีซีทีเอ็กซ์ 900 แต่ชี้แจงได้ข้อกล่าวหา จน ป.ป.ช.มีมติตีตก แต่ครั้งนี้ได้เห็นความตั้งใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าตั้งใจแค่ไหน ตอนอยู่พรรคไทยรักไทย ผมทำเพื่อประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง จึงอยากสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไป เลยคิดจะมาตั้งพรรคพลังประชารัฐ” นายสุริยะ กล่าว

ทว่าปรากฏการณ์นี้ก็ ‘เสียดแทง’ พรรคเพื่อไทยและเครือข่าย ‘พรรคไทยรักไทย-พลังประชาชน’ เดิมไม่น้อย ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยต้องออกแถลงการณ์ออกมาตอบโตทันที เตือน ‘ลูกพรรค’ อย่าได้ ‘แตกแถว’ หรือเป็น ‘ไส้ศึกพรรค’ เพราะอาจจบไม่สวย



ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ 768781.jpg

ไม่เท่าการออกมาของ นายทักษิณ ที่วิดีโอคอลสายตรงถึง ส.ส.เพื่อไทย ที่เมืองไทย โดย ‘ท้า’ ใครอยากออกให้ออกได้เลย จะได้หาคนรุ่นใหม่มาทำงานแทน แน่นอนว่าอาการแบบนี้ ‘ผิดปกติ’ เพราะนายทักษิณ โดยพื้นฐานมีความสุขุมและมีภาวะผู้นำสูง

“ใครที่อยากออกจากพรรคมี 2 ประการ 1. คือ ไปเก็บสตางค์แล้วเลิกเล่นการเมือง ไปพักผ่อน เพราะว่าพวกนี้หน้าโง่จ่ายแพง ก็เก็บตังค์ไป แล้วไปพักผ่อนซะ 2. คือ พวกมั่นใจตัวเอง ลืมไปว่าคะแนนตัวเองสู้คะแนนพรรคไม่ได้ ซึ่งก็ดี ถึงเวลาจะได้ให้คนรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน โดยเฉพาะที่จังหวัดเลย นครราชสีมา จะต้องมีคนรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนแน่นอน” นายทักษิณ กล่าว

ทำให้มีการมองว่ามี ‘ความระส่ำระสาย’ ในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายทักษิณใช้วิธีเงียบมาตลอดหลายปี แต่การออกมาวิดีโอคอลก็ทำให้ถูกจับตาว่า จะเข้าข่ายมาตรา 28 มาตรา 29 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการควบคุม ครอบงำ ชี้นำกิจกรรมของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรค หรือสมาชิก ขาดความอิสระไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

ซึ่งบทโทษของความผิดของการกระทำตามมาตรา 28 มาตรา 29 คือ การเสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ตามมาตรา 92 และมาตรา 93 ของกฎหมายเดียวกัน โดย กกต. ได้มอบหมายให้นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ที่รับผิดชอบงานด้านพรรคการเมืองตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว

“ผมดูไม่ได้ ต้องดูตามกฎหมาย ผมไม่ได้สั่ง กกต. เป็นการดำเนินการของ กกต.เอง ส่วนที่มองว่าการที่นายทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเพราะพรรคเพื่อไทยนั้น ผมไม่ทราบ ไม่ได้อยู่พรรคเพื่อไทย ตอบไม่ได้ และไม่ได้ประเมินอะไร” พล.อ.ประวิตร กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายทักษิณ เองก็ยังมีความมั่นใจจะ ‘ชนะเลือกตั้ง’ โดยพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนอันดับหนึ่ง ส่วนพื้นที่ภาคอีสานที่ ส.ส.เพื่อไทย และพรรคอื่นๆโดน ‘พลังดูด’ ซึ่งนายทักษิณเองยังคงแสดงความเชื่อมั่นจะรักษาฐานเสียงนี้ไว้ได้

ส่วนคำวิพากษ์วิจารณ์ที่มองกันว่า ‘แทงใจ’ พล.อ.ประยุทธ์ เห็นจะเป็นที่ นายทักษิณให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี ที่ลอนดอน ว่า ยังคงเชื่อมั่นว่าจะ ‘ชนะการเลือกตั้ง’ และจี้จุดการเป็น ‘ลูกผู้ชาย’ และการเป็น ‘ชายชาติทหาร’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย


“เพื่อไทยชนะที่1 แน่นอน มั่นใจ เมื่อเข้าคูหาแล้วประชาชนเขาคิดอย่างไร อย่า Under Estimate (ดูถูกดูแคลน) ประชาชน วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ ก็อาจจะยอมอดทน อดกลั้น นั่งนิ่งเฉยรอไปก่อน คิดว่าวันหนึ่ง เขาจะแสดงพลังอำนาจของเขาอย่างสุจริต และวันนั้น เราก็จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และถ้าเป็นลูกผู้ชายก็อย่าไปโกงนะ เป็นลูกผู้ชาย โดยเฉพาะเป็นลูกผู้ชายชาติทหาร อย่าคิดไปโกงเด็ดขาด อายเค้า ถ้าไม่อายใครก็ควรจะอายตัวเอง” นายทักษิณ กล่าว


AFP-ประยุทธ์-จันทร์โอชา-ฝรั่งเศส

ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางกลับถึงไทยก็ถึงกับวิพากษ์วิจารณ์กลับอย่างรุนแรง แม้ไม่ได้ระบุชื่อ แต่ก็เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วกล่าวถึงใคร เพราะช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เยือนอังกฤษก็มีแต่กระแสข่าวที่เกี่ยวเนื่องมาจาก 2 อดีตนายกฯ นั่นเอง

“อย่าไปให้เครดิตกับคนไม่สร้างสรรค์ โจมตีประเทศตัวเอง ไปอาศัยประเทศคนอื่นเขาอยู่ แล้วเกิดมาเป็นคนไทยทำไม ไปอยู่กันแบบคนชั้นสองขออาศัย ขออยู่อย่างนี้นะหรือ อย่าทำเพราะไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ สิ่งที่ควรทำคือกลับมาสู่ครรลองของกฎหมาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ต่อสู้ทางคดี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ถ้าคิดว่าตัวเองถูกขอให้กลับมา ที่พูดนี้หมายถึงทุกคน ไม่ได้หมายถึงใครคนใดคนหนึ่ง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

แน่นอนว่าทำให้เกิดกระแสตีกลับกับ พล.อ.ประยุทธ์ ทันที เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ พยายามที่จะไม่พูดถึงทั้ง 2 คน แต่สุดท้ายก็ต้องกล่าวถึง แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะบอกให้สื่อและคนอื่นๆไม่ให้เครดิตก็ตาม แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ถือว่าเป็นอีกนายทหารที่ท่องโซเชียลฯมานานและรู้ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งจะอ่านข่าวทุกเช้าและอ่านบทความที่กล่าวถึงตนเกือบทุกสำนักข่าว ทำให้ต้องออกมาชี้แจงว่าไม่ได้กล่าวถึง ‘อดีตนายกฯ’ แต่ขออย่ามา ‘ก้าวล่วง’ กัน

“ผมไม่เคยไปก้าวล่วงใครที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีเลย ยกเว้นแต่อย่ามาก้าวล่วงผม ผมให้เกียรติทุกคนเสมอ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ไปเกี้ยเซี้ยอะไรกับใคร มันทำไม่ได้ กฎหมายยังคงมีผลอยู่ทุกฉบับทุกคดี เป็นเรื่องของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม แต่คนอื่นๆ ที่ไปอยู่ต่างประเทศไม่รู้ว่าไปอยู่กันได้อย่างไร ไปพูดจาให้เกิดความเสียหายหมดทุกเรื่อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เรียกได้ว่าเป็น ‘มวยถูกคู่’ เลยก็ว่าได้ ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ นายทักษิณ ที่ตอบโต้คารมกันอย่างตรงไปตรงมา ท่ามกลาง ‘อำนาจต่อรองทางการเมือง’ ที่ใกล้เคียงกันในเวลานี้



ประยุทธ์ 627031720.jpg

แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หรือแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังไม่ได้แสดงจุดยืนตัวเองอย่างชัดเจนถึงอนาคตทางการเมือง แม้แต่พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่มี ‘แม่ทัพคนใหม่’ ที่จะมาชิงเก้าอี้นายกฯ ซึ่งที่ผ่านมามีกระแสข่าวในหลายๆชื่อ ก็เป็นเพียงการเรียกเรทติ้งของแคนดิเดทและฐานเสียงของแต่ละคนเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเป็นที่แน่ชัดว่าหากพรรคเพื่อไทยหรือพลังประชารัฐ ชนะการเลือกตั้ง ย่อมไม่สามารถ ‘ลงเรือลำเดียวกัน’ ได้ โดยจะต้องมีฝ่ายหนึ่งไปเป็นฝ่ายค้าน

แต่ในสภาพกติกาเช่นนี้และสถานการณ์เช่นนี้ คงไม่เกินคาดเดาว่าพรรคใดจะได้เปรียบ แต่ในเวลานี้ยังไม่สามารถตัดสินอะไรได้ชัดเจนหรือยาวๆ เพราะจะต้องรอไปจนกว่าคูหาเลือกตั้งจะเปิด เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้มาแล้ว

ซึ่งมีรายงานมาหลายเดือนแล้วว่า ฝั่งพรรคเพื่อไทยก็คิดไปไกลถึงขั้นว่า หากพรรคชนะการเลือกตั้ง แต่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้จะทำอย่างไร ซึ่งในพรรคเพื่อไทยเองก็พอจะมี ‘หนทางสำรอง’ อยู่บ้าง แต่ยังไม่เหมาะที่จะนำมาเปิดเผยในเวลานี้

สถานการณ์ ‘มวยถูกคู่’ ที่ ‘ทางมวย’ สูสีกัน !!

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog