สำนักข่าว Independent เปิดเผยถึงการให้บริการทำศพแนวใหม่จากบริษัทที่มีชื่อว่า 'Recompose' ซึ่งหมายถึงการประกอบสร้างขึ้นใหม่ เป็นบริษัทที่ให้บริการจัดการกับร่างผู้เสียชีวิต โดยบริการแนวใหม่นี้จะเปลี่ยนร่างผู้วายชนม์ให้กลายเป็นดินหรือปุ๋ยมนุษย์ปริมาณ 1 ลูกบาศก์เมตรภายใน 30 วัน
กระบวนการดังกล่าวเป็นกระบวนการที่เป็นเมิตรต่อธรรมชาติ และใช้พลังงานในกระบวนการเปลี่ยนร่างเป็นปุ๋ยมนุษย์เพียง 1 ใน 8 ของการทำศพแบบธรรมดาเท่านั้น พร้อมทั้งยังลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากถึง 1 เมตริกตัน โดยแคทรินา สเปด CEO ของ Recompose ระบุว่าสถานที่ให้บริการของ Recompose แห่งแรกจะอยู่ที่นครซีแอตเทิล มลรัฐวอชิงตันของสหรัฐฯ โดยจะสามารถให้บริการได้ 75 ร่างพร้อมกัน
İnsan cesetlerini toprağa dönüştürmeyi hedefleyen dünyanın ilk cenaze evi, 2021 yılında Amerika Birleşik Devletleri’nin (ABD) başkenti Washington’da açılıyor. Recompose adlı şirket tarafından hayata geçirilen proje, karbondioksit (CO2) miktarını önemli ölçüde azaltmayı hedefliyor pic.twitter.com/38gSfTa08Q
— DS Kültür Sanat TR (@dskultursanattr) December 10, 2019
ขั้นแรกทางบริษัทจะนำร่างของผู้วายชนม์ไปใส่ไว้ในกล่องรูป 6 เหลี่ยมซึ่งเป็นกล่องที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกหลายครั้ง ก่อนจะกลบร่างผู้เสียชีวิตด้วยเศษไม้ชิ้นเล็กๆ พืชอัลฟัลฟา และฟาง กลบอย่างพิถีพิถันและสร้างความโปร่งเพื่อให้ออกซิเจนผ่านได้สะดวก ซึ่งเหมาะกับการย่อยสลายของร่างและการเติบโตของจุลินทรีย์กับแบคทีเรีย เมื่อครบกำหนด 30 วันทางบริษัทก็จะส่งคืนปุ๋ยให้กับญาติของผู้เสียชีวิต หรือบางส่วนก็จะถูกนำไปมอบให้กับโครงการคืนปุ๋ยสู่ธรรมชาติที่พื้นที่ Bell Mountain ในวอชิงตันต่อไป
The #power of #life. Choose #recompose over #cremation or #burial. This is the #future of #dying. https://t.co/oDHDMBAwkz pic.twitter.com/tTO8FcC2BT
— Anthony Jack Puleo (@yoaj) December 10, 2019
กระบวนการทำศพแบบใหม่นี้ถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่า 'Natural Organic Reduction' ซึ่งหมายถึงการลดรูปแบบอินทรีย์ตามธรรมชาติ ได้รับการอนุญาตจากทางการของมลรัฐวอชิงตันให้เป็นวิธีทำศพรูปแบบใหม่ที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นแห่งแรกในสหรัฐฯที่อนุญาตให้ใช้วิธีนี้ได้ โดยกฎหมายดังกล่าวจะมีผลอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2020 ก่อนที่ทางบริษัท Recompose จะเริ่มให้บริการในปี 2021 เป็นลำดับถัดไป คาดว่าจะมีค่าให้บริการอยู่ที่ประมาณ 5,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 166,636 บาท
แคทรินายังระบุอีกด้วยว่า ปัจจุบันมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศท่ามกลางความกังวลต่อวิกฤติการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนี่คืออีกวิธีหนึ่งที่เป็นตัวเลือกของพวกเขา ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้วงจรของธรรมชาติในการจัดการกับชีวิตและร่างกายของเรา