นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อ พ.ศ 2551 คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ หรือ คตส. มีมติว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ ให้บริษัท กฤษฎามหานคร และในความผิดฐานรับของโจรคดีได้หมดอายุความไปแล้ว แต่ เมื่อ พ.ศ.2560 กลายเป็นคดีขึ้นมาอีก โดย ปปง.ร้องทุกข์ต่อดีเอสไอให้ดำเนินคดีในพฤติการณ์และข้อหาเดิม
ในขณะที่ นายอุตตม สาวนายน ที่ในขณะนั้นได้ลงชื่อในฐานะกรรมการธนาคารกรุงไทย อนุมัติเงินกู้ฯ ให้บริษัท กฤษดามหานคร ซึ่งกรรมการท่านอื่นที่ร่วมลงชื่อด้วย ถูกดำเนินคดี และติดคุกอยู่จนบัดนี้ ในขณะที่นายอุตตม ถูกกันไว้เป็นพยาน ซึ่งนายอุตตมเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรค จึงเป็นที่น่าสังเกตการเป็นคนใกล้ชิดผู้มีอำนาจใน คสช. มักจะอยู่รอดปลอดภัยจากคดีใดๆ
นอกจากจะเห็นว่าในยุคนี้ กระบวนการยุติธรรมไทยถูกตั้งคำถามจากสังคม อย่างมาก และดูประหนึ่งว่าได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจและอิทธิพลของผู้มีอำนาจอย่างชัดแจ้งซึ่งหากปล่อยไว้น่ากลัวว่าวันหนึ่งในอนาคตประชาชนจะปฏิเสธความอยุติธรรม และจะพิพากษากันเอง เพราะต้องไม่ลืมว่า อำนาจตุลาการ คือหนึ่งในสามของอำนาจอธิปไตย ซึ่งเป็นของประชาชนโดยแท้จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง