โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงถึงความสำคัญของโครงการป้องกันอาชญากรรม "Safe America" ที่ต้องใช้งบประมาณมากถึง 37,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.35 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลไบเดนย้ำมาโดยตลอดว่านโยบายนี้จะสร้างความปลอดภัยให้กับชีวิตและสังคม โดยการแถลงครั้งนี้เกิดขึ้นบนเวทีปราศรัยที่ "สวิงสเตท" อย่างมลรัฐเพนซิลเวเนีย
VOA รายงานว่า ไบเดนต้องการให้สภาคองเกรสอนุมัติงบฯ จำนวน 13,000 ล้านดอลลาร์เพื่อให้ชุมชนทั่วสหรัฐฯ ฝึกฝนตำรวจ 100,000 นายในระยะเวลา 5 ปี ขณะที่ 3,000 ล้านดอลลาร์จะถูกใช้กับการเคลียร์ปัญหาในระบบศาลและคดีที่เกี่ยวกับการฆาตรกรรมและอาวุธปืน และอีก 5,000 ล้านดอลลาร์จะให้โครงการต่างๆ ที่จะช่วยยุติความรุนแรงก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง
แม้ฝ่ายหัวก้าวหน้าของพรรคเดโมแครตจะผลักดันให้มีการลดงบประมาณให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไบเดนย้ำบนเวทีว่า "เมื่อพูดถึงปัญหาเรื่องความปลอดภัยของสาธารณะในสหรัฐฯ คำตอบของปัญหานี้ไม่ใช่การลดงบฯ ตำรวจ แต่เป็นการให้งบฯ กับตำรวจต่างหาก"
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้วิจารณ์นักการเมืองจากพรรครีพับลิกันที่พยายามขัดขวางการออกกฎหมายสั่งแบนอาวุธปืนประเภทไรเฟิลจู่โจม รวมถึงอาวุธปืนที่คล้ายคลึงกับ AR-15 ที่ถูกใช้ในเหตุกราดยิงครั้งล่าสุดในสหรัฐฯ
"ถึงเวลาแล้วที่เราต้องทวงสัญญาอย่างจริงจังจากนักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน แล้วถามพวกเขาดูซิว่าจะแบนอาวุธจู่โจมหรือไม่ ... หากคำตอบคือไม่ ก็ควรเลือกที่จะไม่ลงคะแนนเสียงให้พวกเขาเสียที"
ไบเดนกล่าวถึงประเด็นกฎหมายอาวุธปืนที่ยังถูกถกเถียงมาอย่างยาวนานในสหรัฐฯ ขณะที่เขากำลังเดินสายขึ้นปราศรัยหาเสียงก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.นี้ โดยการสำรวจจาก Pew Research ระบุว่า ชาวอเมริกันที่ทำแบบสำรวจราว 63% ต้องการให้สภาคองเกรสผ่านกฎหมายควบคุมความรุนแรงจากการใช้ปืนในสหรัฐฯ