นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา ผู้แทนสมาคมประมงท้องถิ่น 22 จังหวัดชายทะเล กล่าวว่า สมาคมประมงแห่งประเทศไทย (สปท.) เข้ารับฟังผลสรุปจากนายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง เกี่ยวกับระเบียบการจ่ายชดเชยเจ้าของเรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายประมง (เรือขาว-แดง) ซึ่งต้องนำเรือส่วนหนึ่งออกนอกระบบ เนื่องจากเรือประมงมีมากกว่าทรัพยากรทางทะเล ซึ่งกรมประมงจะเปิดให้เจ้าของเรือขาว-แดง 305 ลำตามที่ประกาศรายชื่อไปแล้วนั้น มาเขียนเอกสารยืนยันความจำนงรับค่าชดเชยที่ประมงจังหวัดตั้งแต่วันที่ 22 – 30 เม.ย. 2562
โดยทางสมาคมประมงท้องถิ่นทั้ง 22 จังหวัดชายทะเลจะประสานงานและแจ้งข่าวให้ชาวประมงรับทราบ เมื่อคณะทำงานตรวจสอบเอกสาร ทำสัญญา ตรวจเรืออีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าถูกต้องตรงลำสามารถรับเงินค่าชดเชยงวดแรก ร้อยละ 30 ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จากนั้นเจ้าของเรือต้องเสนอแผนทำลายเรือภายใน 45 วันนับจากวันเงินเข้าบัญชี อีกทั้งต้องคืนทะเบียนเรือให้กรมเจ้าท่า ทั้งนี้ การทำลายเรือตามแผนต้องเสร็จใน 90 วัน หากเกิดเหตุขัดข้องต่อให้เวลาเพิ่ม 30 วัน
นายสุรเดช กล่าวว่า การทำลายเรือดำเนินการโดยเจ้าของเรือ แต่กรมเจ้าท่า ประมงจังหวัดจะติดตามทุกระยะจนกระทั่งเสร็จสิ้น บันทึกภาพเพื่อยืนยันว่าทำลายเรือจริง จึงสามารถรับเงินค่าชดเชยที่เหลืออีก ร้อยละ 70 ทั้งนี้ กรมประมงกำหนดให้ดำเนินทุกกระบวนภายใน 15 ก.ย. 2562
ทั้งนี้ เจ้าของเรือประมง 22 จังหวัดชายทะเลที่ต้องนำเรือออกนอกระบบ ที่ไม่สามารถประกอบอาชีพประมงได้ต่อไป ดีใจมากที่มีข้อสรุปเรื่องการจ่ายค่าชดเชยชัดเจน หลังจากที่รอมาเกือบ 4 ปี ชาวประมงจำนวนมากไม่สามารถออกเรือ ทำให้ขาดรายได้ บางรายต้องกู้หนี้ยืมสินมาเลี้ยงครอบครัว เรือกลุ่มขาวแดงถูกตรึงพังงามาตั้งแต่ปี 2558 แต่การจ่ายค่าชดเชยยืดเยื้อ
จนกระทั่งผู้แทนสมาคมประมงท้องถิ่นขอให้นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบเร่งช่วยเหลือเมื่อปลายปี 2561 ทำให้เรื่องคืบหน้าจนกระทั่ง ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณและสรุปแนวทางการจ่ายค่าชดเชยอย่างชัดเจนแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง