คณะประชาชนปลดแอก หรือ Free People นำโดยทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการ และจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. ในฐานะโฆษกของกลุ่มแถลงข่าวเปิดตัว บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งร้าน McDonald's สาขาราชดำเนิน
ทัตเทพ อ่านแถลงการณ์ ระบุถึงการออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเสรีภาพและประโยชน์ทั้งหลายของประชาชนที่พึงมีพึงได้ ซึ่งภาครัฐต้องรับฟังและคุ้มครองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พร้อมยืนยันว่าทางกลุ่มไม่ยอมรับหลักการและกระบวนการที่ทำลายประชาธิปไตย รวมถึงการสร้างความเกลียดชัง ตลอดจนไม่เห็นด้วยกับการพยายามตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพราะไม่ได้มาจากเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน แต่สิ่งจำเป็นคือต้องปลดแอกออกจากเผด็จการอํานาจนิยม พร้อมประกาศข้อเรียกร้อง 3 ภายใต้ 2 หลักการ คือ
1.ต้องหยุดใช้อำนาจรัฐคุกคามผู้เห็นต่าง
2.ต้องยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากเจตจำนงของประชาชน ไม่ใช่จากการใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงทางกฎหมายเพื่อประโยชน์แก่คนบางกลุ่ม
3.รัฐบาลต้องยุบสภา หลังจากดำเนินการข้อ 1 และข้อ 2 แล้ว เพื่อให้มีการเลือกตั้งบนกติกาที่เป็นธรรมและเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อการบริหารประเทศที่ล้มเหลว
ส่วนหลักการ 2 ข้อคือ ต้องไม่มีรัฐประหาร กับ ต้องไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ พร้อมยืนยันว่าจะไม่หยุดการเคลื่อนไหว จนกว่ารัฐบาลจะยอมรับข้อเรียกร้อง 3 ประการและหลักการ 2 ข้อข้างต้น พร้อมประกาศชุมนุมใหญ่ครั้งแรก วันที่ 16 ส.ค. นี้ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. โดยขีดเส้นตายให้ผู้มีอำนาจต้องยุบสภาก่อนการปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปลายเดือน ก.ย.นี้
โดยแกนนำประกาศว่าจะไม่ร่วมกับคณะกรรมมาธิการหรือการเปิดรับฟังความเห็นจากรัฐบาล เพราะเห็นว่าเป็นการซื้อเวลาเท่านั้น หากนายกรัฐมนตรี ต้องรับฟังความเห็นของทางกลุ่มให้ขึ้นเวทีรับฟังบนเวทีชุมนุมวันที่ 16 ส.ค. พร้อมยืนยันว่าทางกลุ่มไม่ต้องการความรุนแรง และความรุนแรงส่วนใหญ่จะมาจากอำนาจรัฐและมือที่สาม แต่ไม่ว่าจะเกิดมาจากฝ่ายใด ก็เป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับประชาชน
แกนนำกล่าวระหว่างตอบคำถามสื่อมวลชนด้วยว่า ทางกลุ่มจัดตั้งขึ้นมาใหม่ไม่ได้อัพเกรดจากเยาวชนปลดแอก ซึ่งเป็นการแยกกันดำเนินการคนละส่วน แล้วไม่กังวลที่จะจัดชุมนุมภายใต้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) รวมถึงเนื้อหาการปราศรัยของอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มเยาวชนโต้กลับ ที่พยายามขยับเพดานในการพูดถึงสถาบันเบื้องสูงในที่สาธารณะ เพราะทางกลุ่มเชื่อว่าเป็นการพูดตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยเห็นว่า การพูดประเด็นนี้จะไม่ทำให้คนหวาดกลัวหรือมาชุมนุมน้อยลง แต่เชื่อว่าจะทำให้คนตาสว่างมากขึ้น และจะทำให้คนเข้ามาร่วมชุมนุมมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาด้วย