ไม่พบผลการค้นหา
ธนาคารโลกรายงานผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business 2020) ไทยรั้งอันดับ 21 ของโลก ด้านเลขาธิการฯ ก.พ.ร. ยัน เตรียมเดินหน้าลดขั้นตอนทางราชการลงอีก หวังไทยเข้าสู่ TOP20

นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า รายงานล่าสุดจากธนาคารโลกจัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจดีอันดับ 21 จาก 190 ประเทศทั่วโลก โดยดีขึ้น 6 อันดับ จาก 27 ในปีที่ผ่านมา มีคะแนนรวมทุกด้านอยู่ที่ 80.1 คะแนนเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยในแง่ตัวชี้วัดด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อยไทยได้อันดับ 3 ของโลก ด้านการขอใช้ไฟฟ้าได้อันดับ 6 ของโลก โดยในอาเซียนเป็นรองแค่สิงคโปร์และมาเลเซีย

สำหรับปีนี้มีการปฏิรูปที่สำคัญ ส่งผลต่อการจัดอันดับของประเทศไทยใน 5 ด้าน คือ ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อยได้ 86 คะแนน เป็นผลจากดัชนีด้านความสามารถในการฟ้องคดีของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น และดัชนีด้านความโปร่งใสของบริษัทที่ได้รับการปรับคะแนนเพิ่มขึ้น, ด้านการขออนุญาตก่อสร้างได้ 77.3 คะแนน ที่แก้ไขระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการขออนุญาตและการควบคุมการก่อสร้างอาคารส่วนลดขั้นตอนการตรวจสอบอาคารจากเดิม และลดระยะเวลาลง

นอกจากนี้ การการเริ่มต้นธุรกิจได้ 92.4 คะแนนสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่อหัวลงจากร้อยละ 3.1 ของรายได้ประชาชาติต่อหัวเหลือเพียงร้อยละ 3.0 ของรายได้ประชาชาติต่อหัว, ส่วนด้านการขอใช้ไฟฟ้าได้ 98.7 คะแนนมาจากการปรับลดอัตราค่าบริการการขอใช้ไฟฟ้าและลดขั้นตอนการขอใช้ไฟฟ้าลง

สุดท้ายคือด้านการแก้ไขปัญหาการล้มละลายได้ 76.8 คะแนนโดยแก้ไขกฎหมายเพื่อปรับปรุงกระบวนการล้มละลายและฟื้นฟูกิจการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ระบุว่า แผนการดำเนินงานต่อจากนี้ตั้งเป้าที่จะลดระยะเวลาการทำงานในส่วนของระบบราชการลง โดยจะมีการปรับลดให้เหลืออย่างน้อยครึ่งหนึ่งของระยะเวลาที่ดำเนินการในปัจจุบัน ซึ่งจะมีการนำรถระบบเทคโนโลยีออกมาใช้ โดยมีแนวทางคือจะไม่เรียกเอกสารที่ราชการออกให้เพื่อใช้ในการดำเนินการต่างๆ คาดว่าในปี 2563 จะมีความชัดเจนมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :