สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า รัฐบาลจีนวางแผนลดเป้าหมายตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ปี 2562 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6-6.5 เปรียบเทียบกับเป้าหมายปีที่แล้วที่อยู่ที่ "ประมาณ" ร้อยละ 6.5 อย่างไรก็ตาม เป้าหมายตัวเลขจีดีพีของจีนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนในการประชุมสภาประจำปีในเดือนมีนาคมที่จะมาถึง
ข้อมูลที่คาดว่าจะออกมาในเดือนนี้ คือตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2561 ที่มีการคาดการณ์ว่าอยู่ที่ร้อยละ 6.6 ซึ่งนับเป็นตัวเลขการเติบโตที่อ่อนแอที่สุดตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ยังออกมามองว่าปีนี้เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงอีกก่อนที่นโยบายของรัฐจะเข้ามาสนับสนุนได้ทัน
"มันเป็นเรื่องยากมากที่จะโตเกินร้อยละ 6.5 (ในปีนี้) และหายนะจะมาเยือนแน่ถ้าจีนโตต่ำว่าร้อยละ 6" แหล่งข่าวไม่เปิดเผยนามท่าหนึ่ง กล่าว
ในฐานะเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก เหล่าผู้นำของจีนกำลังจับตามองการจ้างงานในโรงงานต่างๆ เป็นพิเศษเนื่องจากมีแนวโน้มการปลดพนักงานออกท่ามกลางความตึงเครียดจากสงครามการค้าที่หนักหน่วงระหว่างสหรัฐฯ และจีน
การเติบโตที่ประมาณร้อยละ 6.2 เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับจีนในช่วง 2 ปีต่อจากนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ตั้งเป้าจะเพิ่มจีดีพีขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2563 และเปลี่ยนจีนให้เป็นประเทศที่ "มั่งคั่งอย่างพอเพียง"
"เมื่อพิจารณาการจ้างงาน รายได้ และความมั่นคง เราต้องการการเติบโตที่อย่างต่ำร้อยละ 6 ในปีนี้" แหล่งข่าวท่านหนึ่ง กล่าว
การตั้งเป้าตัวเลขที่ช่วงนี้จะทำให้ผู้กำหนดนโยบายทมีช่องว่างในการดำเนินการต่างๆ มากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
รัฐบาลจีนตั้งเป้าที่จะรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคไว้ที่ร้อยละ 3 ในปี 2562 แม้ว่าจะค่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลงส่งผลให้รัฐบาลมีพื้นที่ในการกระตุ้นการบริโภคที่อ่อนตัวลง ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าตัวเลขอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของจีนลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จากเดิมที่ร้อยละ 2.2 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายคาดการณ์ของรัฐบาล
อ้างอิง; Reuters