วันที่ 5 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ ยื่นร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดย สฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคได้ยื่นเข้าสู่ระบบไปเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2561 วันนี้มาติดตามให้ประชาชนรับทราบ สืบเนื่องจาก อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้มอบหมายให้ ศุภชัย ใจสมุทร และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคภูมิใจไทยไปศึกษาในเรื่องของประกาศและคำสั่งของ คสช. ที่มีปัญหาเป็นอุปสรรค ในเรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตยและได้รับร้องเรียนเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ จากการศึกษาประกาศและคำสั่งคสช. มีทั้งหมด 240 ฉบับ ออกเป็นกฎหมาย มี 71 ฉบับ ซึ่งตามศักดิ์คำสั่งและประกาศของ คสช. เทียบเท่ากับ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ดังนั้น ถ้าจะยกเลิกจะต้องทำเป็น พ.ร.บ. โดยคำสั่งของ คสช. ที่จะ บังคับใช้เป็นกฎหมายได้มีทั้งหมด 37 ฉบับ เป็นพระราชกฤษฎีกาและกฎกระทรวงอย่างละ 2 ฉบับ เป็มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 55 เรื่อง
โดยร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่ง คสช. ฉบับที่ได้ยื่นนี้ จะยกร่าง 7 มาตรา ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์ และปัญหาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 โดยมี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน แต่ขณะนี้ประเทศของเรา เข้าสู่ระบบประชาธิปไตย แล้วจะไปแทรกแซงสิทธิขั้นพื้นฐานประชาชนไม่ได้ รวมถึงสิทธิและเสรีภาพในการชุมนุม จึงอยากให้เพื่อน สส. ให้ความเห็นชอบและผ่านร่างกฎหมายนี้โดยเร็ว
"ไม่ได้ตำหนิในเรื่องของประกาศคำสั่ง คสช. ซึ่งยอมรับว่าบางฉบับยังมีความจำเป็น แต่จะมีปัญหากับนักลงทุน เพราะต่างชาติเมื่อเข้ามาลงทุนจะดูกฎหมาย ดังนั้นเมื่อมีสภาฯ จึงเปรียบสภาฯ เป็นโรงงานเกียกกาย ดังนั้นการแก้กฎหมายจึงควรมาจากโรงงานเกียกกาย ซึ่งเป็นโรงงานผลิตกติกา" สฤษฏ์พงษ์ กล่าว