พร้อมกันนั้นก็ได้เปิดตัว เธียรทัศน์ เอี่ยมตระกูล ลูกชายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สุราษฎร์ธานี
อุตตม กล่าวถึงความพร้อมในการเตรียมผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้ว่า ขณะนี้พรรคอยู่ระหว่างการคัดเลือกคนที่มีคุณภาพสูงสุดและมีความเหมาะสมในทุกด้านมาทำงานให้กับประชาชน และขอยืนยันชัดเจนว่าพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ใช่ตัวแทน และร่างทรงของใคร แต่เป็นพรรคที่เสนอตัวมาทำงาน ไม่ข้องแวะและเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งใดๆ เพื่อซ้ำเติมประเทศชาติที่มีปัญหาอย่างมากในขณะนี้ แต่มุ่งมั่นที่จะมาฟื้นเศรษฐกิจและร่วมกันวางรากฐานที่เข้มแข็งให้กับอนาคตของประเทศอย่างยั่งยืน ฝ่ายการเมืองต้องขับเคลื่อนประเทศ ตามหน้าที่ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล
“เราเชื่อว่าเราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง สมาชิกพรรคเรามากันจากหลายทาง หลายพรรค ในพรรคไม่ได้มีฝ่ายการเมือง แต่ยังมีภาคประชาชน ผู้ประกอบการ เอกชน ที่เข้ามาร่วมมือกัน พรรคมุ่งมั่นมาแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ซึ่งเราเชื่อว่าเราทำงานได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนแล้วว่าต้องการเห็นอะไร แต่มั่นใจว่าประชาชนทั่วไปมองว่าจะก้าวข้ามปัญหาได้ถ้าการเมืองสร้างสรร”
สนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคขอเป็นทางเลือกทางออกให้กับพี่น้องชาวใต้ ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยได้รวมบุคคลและนโยบายที่เป็นทางออกของประเทศไทย และมั่นใจว่าวันนี้พี่น้องประชาชนกำลังมองหาพรรคการเมืองที่จะฝากอนาคตของลูกหลานได้ พรรคไม่ได้มองว่าใครเป็นคู่แข่ง แต่เสนอตัวพรรคและผู้สมัครที่ดีที่สุดเพื่อให้พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสินใจ
ขณะที่ นิพิฏฐ์ กล่าวว่า คนปักษ์ใต้ต้องเริ่มทบทวนว่าที่ผ่านมา ถ้าได้เลือกพรรคที่ดีที่สุดแล้วก็ไม่มีปัญหา แต่ขณะนี้ ตนมีความรู้สึกว่าภาคใต้ต้องดีกว่านี้ ต้องเปลี่ยนภาคใต้ให้ถึงรากโดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ปากท้อง และเศรษฐกิจ ฉะนั้นตนเชื่อว่าประชาชนเริ่มมองหาพรรคการเมืองที่จะตอบสนองปัญหาและความต้องการของพวกเขาได้ และคิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภาคใต้
ด้าน เธียรทัศน์ เอี่ยมตระกูล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ที่ตัดสินใจลงสมัครกับพรรคสร้างอนาคตไทย เพราะทีมผู้บริหารของพรรค เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ซึ่งตนเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่สนใจการเมือง ก็ตัดสินใจไม่ยากที่จะร่วมงานกับทีมบุคลากรคุณภาพระดับนี้ ตนเกิดและเติบโตที่นี่ ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ดังนั้น ตนจึงมีความคิดที่จะนำนโยบายของพรรคมาทำงานให้บ้านเกิดให้เดินไปข้างหน้าตามยุทธศาสตร์ของพรรคที่จะช่วยให้คนใต้หายจน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งและกลับมาเป็นแกนนำจัดรัฐบาล พรรคจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ อุตตม ตอบว่า ตรงนี้ต้องดูการตัดสินใจของประชาชน การจะไปพูดก่อนว่าจะทำอย่างไรนั้น ยังเร็วเกินไป วันนี้ขอมุ่งเน้นแนวทางการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ต้องรอดูคำพิพากษาของพี่น้องประชาชน ณ วันนั้นเป็นอย่างไร ไว้วางใจใคร
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกหรือไม่ ยอุตตม ยืนยันว่า ทั้งตนและ สนธิรัตน์ ได้ประกาศชัดเจนตั้งแต่วันประกาศก่อตั้งพรรคแล้วว่า พรรคมีคนของพรรคที่จะชูเป็นแคนดิเดตนายกของพรรคอันดับ 1 คือ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งไม่ใช่ พล.อ. ประยุทธ์ เพราะไม่ได้อยู่ในพรรค ซึ่งวันนี้ก็ยังยืนยันความคิดนี้เหมือนเดิม