ไม่พบผลการค้นหา
'แพทองธาร' เปิดตัว 'ณัฐวุฒิ' กลับบ้านในบทบาท 'ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย' ลั่นเสียเวลากับเผด็จการมานานแล้ว ปลุกรวมพลังแลนด์สไลด์ ด้าน 'ณัฐวุฒิ' ย้ำภารกิจกลับบ้านเดิม ขอแลนด์สไลด์คว่ำรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ให้คำมั่นถ้าตัวเองไม่ซื่อสัตย์ให้ 'เพื่อไทย' เขี่ยตัวเองพ้นพรรคได้ ย้ำพร้อมสู้เคียงข้างหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชี้ถ้า 'โทนี่' เปลี่ยนจุดยืนพร้อมลุกสู้ทันที

วันที่ 15 มิ.ย. 2565 ที่เดอะแจม แฟคทอรี่ คลองสาน พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมเปิดตัวผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โดยมี แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย แกนนำพรรค อาทิ ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เกษม นิติศิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี จาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมทั้งมีอดีตแกนนำ นปช. ทั้ง วีระกานต์ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ ก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มาร่วมให้กำลังใจ

โดย แพทองธาร กล่าวต้อนรับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เพื่อนำทัพทำกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย พร้อมระบุว่า ตลอดเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาที่เปิดตัวกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่ออกแบบมาเพื่อลดข้อกำหนดทางกฎหมาย ให้ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองได้อย่างแท้จริง และที่ผ่านมา ครอบครัวเพื่อไทยทำงานอย่างหนักในการลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ครอบครัวเพื่อไทยจำเป็นต้องพัฒนาปรับปรุงการทำงานของตัวเองเพื่อทำให้ครอบครัวเพื่อไทยนั้นแข็งแรงกว่าเดิม และไปถึงพี่น้องประชาชนในทุกกลุ่มได้จริง 

แพทองธารกล่าวว่า วันนี้ยินดีอย่างยิ่งที่ ณัฐวุฒิ กลับบ้าน กลับครอบครัวเพื่อไทยเพื่อมาช่วยกันทำงาน เพราะไม่ใช่แค่เป็นที่รักของประชาชน แต่ยังเข้าใจพรรคเพื่อไทย ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องประชาชนมาตลอด ส่วนตัวยินดีและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกัน 

“การที่เราประกาศเรื่องของ ‘แลนด์สไลด์’ ในหลายหลายครั้งในหลายหลายที่ที่เราไป เราต้องการให้ฝั่งประชาธิปไตยเป็นผู้ชนะเพื่อพี่น้องจะได้พ้นจากความทุกข์ความยากจนสักที เราเสียเวลากับเผด็จการมานานแล้ว ทำให้เราล้าหลังไปซะทุกเรื่อง ถึงเวลาแล้วที่เราจะมารวมพลังกันค่ะ และในวันนี้ดิฉันมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าพี่เต้นของพวกเรา คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะเป็นอีกแรงสำคัญแรงหนึ่งที่จะทำให้บ้านนี้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะพี่เต้นเข้าใจพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี และเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างลึกซึ้ง” แพทองธาร ระบุ

4C4C3494-0DA5-44D2-9808-34EFA30A5758.jpegแพทองธาร ณัฐวุฒิ  เพื่อไทย  จาตุรนต์  ก่อแก้ว วีระกานต์ -6BADA2AF3A79.jpegเสื้อแดง เพื่อไทย -40F0-AE5A-3235FDDB1B06.jpegณัฐวุฒิ  CB3E86B5C69.jpegแพทองธาร ณัฐวุฒิ เพื่อไทย E4A2EACCCDD.jpeg

'ณัฐวุฒิ' ลั่นภารกิจคว่ำ รบ.สืบทอดอำนาจ

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ตรงนี้ อันดับแรกอยากสื่อสารถึงกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ได้ร่วมต่อสู้ เสียสละ โดนเหยียบย่ำมา 10 กว่าปี แต่ก็ยังเชื่อมั่นในหลักการที่ถูกต้องที่ว่าคนเท่ากัน เชื่อว่าประเทศนี้ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดของประเทศ 

จากนั้น ณัฐวุฒิ ได้ขับร้องบทเพลง ‘แดงเสรีชน’ และเปิดเผยว่า ที่เริ่มต้นเช่นนี้ เพราะมีความจริงในประวัติศาสตร์การเมืองว่า ขบวนการต่อสู้ที่เรียกว่าคนเสื้อแดงได้เกิดขึ้นและเดินทางมาเป็นเวลา 10 กว่าปีอีกประการหนึ่ง คือ ไม่ว่าตนจะอยู่ในสถานะใดก็ยังคงเป็นคนเสื้อแดงอยู่เสมอ แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า นี่ไม่ใช่เวทีของคนเสื้อแดง แต่จะเป็นเวทีครอบครัวเพื่อไทย ที่ทำงานคู่ขนานกับ พรรคเพื่อไทย เพื่อต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง เพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐจากเครือข่ายเผด็จการ สู่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยของประชาชนที่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาให้ประเทศได้จริง 

“เราจึงต้องเปิดประตูทุกบาน เปิดหัวใจทุกห้อง ยื่นมือออกไปสุด เหยียดแขนไปทุกมุมของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนคนหนุ่มสาว กลุ่มอาชีพ ผู้ทุกข์ยากกลุ่ม ความเชื่อ กลุ่มวิถีชีวิต ซึ่งหมายถึงคนไทยทุกคน นี่คือพันธสัญญาที่จะยืนยันร่วมกันตรงนี้ว่า ไม่มีเวลาให้กับรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการชุดนี้อีกต่อไปแล้ว ประเทศไทยไม่เหลืออะไรให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพวก กัดกินได้แล้วอีกต่อไป” ณัฐวุฒิ กล่าวและว่า “นี่เป็นพันธสัญญาที่ยืนยันร่วมกันตรงนี้ว่า ไม่มีเวลาสืบทอดอำนาจให้รัฐบาลชุดนี้อีกต่อไป ไม่เหลืออะไรให้ พล.อ.ประยุทธ์และพวกกัดกินต่อไปได้อีกแล้ว” 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า มีการถามว่าเหตุใดต้องเป็นพรรคเพื่อไทย ทั้งที่มีพรรคการเมืองประกาศตัวเป็นประชาธิปไตยตั้งหลายพรรค และคนนำเสื้อแดงที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับตน ก็ไปอยู่ในหลายพรรค ตลอดเวลาที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยมีวันชื่น และทุกข์ ระหว่างตนกับพรรคเพื่อไทยมีทั้งที่ถูกและผิดต่อกัน มีความทรงจำ มีความไม่เข้าใจ แต่อย่างไรที่นี่คือบ้าน 

ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุด้วยว่า ตนเองเกิดและโตที่นี่ ทุกครั้งที่ถึงบัดนี้มองเข้าไปที่พรรคเพื่อไทย มองเห็นหลายคนที่ตนรัก และหลายคนที่รักตน เห็นเพื่อน พี่ น้อง สู้มาด้วยกัน เห็นชะตากรรมที่เจ็บปวดกับประชาชน อยู่ในประวัติศาสตร์เหล่านั้น แม้ก่อนหน้านี้จะมีเพื่อนต่างพรรคมาหาที่บ้าน ชวนให้ตนเข้าร่วมงานการเมืองด้วย ตนน้อมรับคำชวนด้วยไมตรี แต่การตัดสินใจสุดท้าย ตนนึกภาพตัวเองไม่ออก ถ้าจะไปยืนเผชิญหน้ากับคนที่นี่ในสนามเลือกตั้งจะต้องทำอย่างไร 

ปลุก 'เพื่อไทย' ต้องแลนด์สไลด์ชนะกติกาอัปยศ

"ผมเดินกลับเข้ามาที่นี่ ภาพจำเต็มไปด้วยความหลัง และความหวังอยู่ข้างหน้า ในอนาคตที่เราต้องก้าวเดิน นี่เป็นเหตุผลโดยส่วนตัว ที่มาที่นี่คือบ้าน ส่วนเหตุผลโดยส่วนรวม เรามีภารกิจร่วมกันสำหรับคนไทยทั้งประเทศต้องเอาชนะรัฐบาลสืบทอดอำนาจชุดนี้ หยุดความเพ้อฝันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และพวกลงตรงนี้ และคืนความฝันที่เป็นจริงให้กับประชาชนคนไทย ให้รัฐบาลมีศักยภาพ มีประสบการณ์ แก้ปัญหาได้จริง เราจะทำอย่างนั้นได้ มีทางเดียวต้องชนะเลือกตั้ง 

แต่ด้วยกติกาอัปยศนี้ เพียงเพื่อชนะเลือกตั้งไม่เพียงพอ พรรคเพื่อไทยได้รับคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่พรรคพลังประชารัฐ ใช้คะแนน ส.ว.250 ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เลือก พล.อ.ประยุทธ์ตั้ง โหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เป็นเจตนาดั้งเดิมของเผด็จการ ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งที่กำลังมาถึงจึงจำเป็นต้องมีพรรคใดพรรคหนึ่งในฝ่ายประชาธิปไตย ชนะให้เด็ดขาด ได้เสียงเกินครึ่งในสภา เพื่อแลนด์สไลด์ขับไล่เผด็จการออกไปไม่ให้ตั้งรัฐบาล 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า คณิตศาสตร์การเมือง ที่มี 250 ส.ว.เป็นตัวตั้งต้น ต้องการ 126 ส.ส.เท่านั้นก็จะตั้งนายกฯ แต่ในมิติการเมืองก็ให้มีพรรคการเมืองได้ 250 เสียก่อน ได้ฉันทามติจากประชาชนเกินครึ่ง ถึงเวลานั้น ส.ว.มีที่มีอำนาจโหวตนายกฯ เพียงอีกปีเดียวจะถูกเรียกร้องให้ตัดสินใจตามคนส่วนใหญ่ ตัดสินใจตามพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่ได้คะแนนสูงสุดเกินครึ่ง 

"ทางการเมืองไม่มีอะไรเป็นสูตรสำเร็จ แต่ถ้าไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำ มันก็ไม่สำเร็จเช่นกัน ผมมาที่นี่ด้วยเหตุผลในทางการเมืองและส่วนรวมเช่นนี้ เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจ ถ้าการเมืองพรรคใดได้คะแนนเสียงชนะขาด เกินครึ่ง แลนด์สไลด์ นั่นคือพรรคเพื่อไทย เพราะเคยทำสำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง คือพรรคไทยรักไทย ปี 2548 และพรรคเพื่อไทย 2554"

ณัฐวุฒิ 95-2F381CEBB258.jpeg

เตือนคนเสื้อแดงที่ไปรับใช้เผด็จการอย่าเรียกว่าคนเสื้อแดง

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนมาไม่ได้มาเล่นๆ เทเพื่อภารกิจนี้และจะทำสุดความสามารถ ขณะเดียวกันก็เป็นกำลังใจให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทุกพรรค แข่งขันโดยเสรี อิสระ สุดกำลัง เสร็จแล้วกอดคอเอาชนะเผด็จการด้วยกัน แม้ยืนอยู่คนละข้างมีโอกาสที่จะบาดหัวใจกันได้ ทำให้รอยยิ้มกลายเป็นความเครียดขึ้นต่อกันได้ แต่เชื่อว่าประชาธิปไตยจะใหญ่พอ แล้วประชาชนจะใหญ่จริง ดังนั้น มิติในภาพรวมอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน จะทุ่มเททุกหยาดเหงื่อ ให้กับหน้าที่ ผอ.ครอบครัวพรรคเพื่อไทย จนกว่าจะได้รับชัยชนะ 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ภารกิจจากนี้ พาคนเสื้อแดงกลับบ้านนั้นไม่ตรงนัก เพราะคนเสื้อแดงยังอยู่ในเพื่อไทย แต่ถ้าจะมีพี่น้องที่ไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่นๆ แล้วเราเคารพการตัดสินใจ วันหนึ่งถ้าเขาอยากกลับมาเคียงข้างพรรคเพื่อไทย บอกนี้พร้อมต้อนรับอยู่ตลอดเวลา แต่หากบอกว่า ไม่ได้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย หัวใจดวงนี้ก็จะเคารพและคารวะ ไม่มีใครตัดขาดความเป็นพี่น้อง จิตวิญญาณของคนเสื้อแดงได้ หากมีพี่น้องที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ยอมใจรับใช้เผด็จการไปเสียแล้ว ก็ตอบว่าขอให้ไปให้ไกลที่สุดเมื่อใดก็ตามที่ข้ามหลักการประชาธิปไตย อย่าได้เรียกตัวเองว่าคนเสื้อแดง”

ณัฐวุฒิ  E-8D18934421F2.jpegแพทองธาร ณัฐวุฒิ  6-9239-0BF4F3F40614.jpeg

รับไร้ปัญหาเป็นลูกน้อง 'แพทองธาร' พร้อมทำงานเคียงข้างหัวหน้าครอบครัว

"มาเป็นลูกน้องน้องอิ๊งค์ได้อย่างไร ผมบอกว่าไม่มีปัญหา เอาที่ผมสบายใจ และไม่ได้รู้สึกว่ามาเป็นที่นี่เพื่อเป็นลูกน้องแพทองธาร แต่มาที่นี่เพื่อสู้ด้วยกัน เคียงข้างกัน เพื่อทำให้ภารกิจสำเร็จให้ได้ คนอย่างผม ใครไปเป็นลูกน้องยาก เวลาทำก็ทำ ไม่ทำก็ไม่ทำ ดังนั้น เข้ามาเต็มหัวใจ ไม่มีอะไรตะขิดตะขวง ไม่มีลูกเล่น ไม่มีลีลา เดินหน้าทำงานเคียงข้างหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน 

ส่วนจะอยู่ไปถึงเมื่อไหร่นั้น จะเดินไปสุดทาง เส้นทางที่ตนเดินกับพรรคเพื่อไทยคือเส้นทางประชาธิปไตย ตราบใดก็ตามที่พรรคเพื่อไทยยังเดินเส้นทางนี้ ตามหลักการประชาธิปไตย ก็จะร่วมทางไปแบบนี้ แม้วันหนึ่งวันใดพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนเส้นทาง เปลี่ยนเส้นทางประชาธิปไตย ในทางการเมืองก็ถือว่าสุดทางรัก ปล่อยมือ ณ ตรงนั้น 

ณัฐวุฒิ 56E-5026E35EA8D6.jpeg

ยันรัก 'ทักษิณ' แต่ถ้าเปลี่ยนจุดยืน พร้อมสู้ทันที ลั่นถ้าตัวเองทรยศให้ 'เพื่อไทย' เขี่ยได้

ณัฐวุฒิยังระบุว่า "ผม รัก เคารพ ศรัทธาอดีตนายกฯ ทักษิณ เอาใจช่วย คาดหวังว่าวันหนึ่งแผ่นดินไทยจะใช้ศักยภาพระดับโลกของชายคนนี้มาแก้ปัญหา ทำให้คนไทย หายอดอยาก ปลดแอกผู้คนที่ทนมา 8 ปี ผมรอคอยศักยภาพของชายชื่อทักษิณ อยู่ตรงนี้ ดังนั้น ถ้าพูดว่า ณัฐวุฒิ เป็นลูกน้องทักษิณ ขอชี้แจงว่าจริง ในหลักการเดียวกัน ตราบใดที่ทักษิณยังอยู่กับประชาชน กับประชาธิปไตย หากยังไม่ย้ายข้างก็ฝากความหวังไว้ได้

แต่สมมติ ทักษิณ มีการเปลี่ยนแนวทางจากประชาธิปไตยไปเสียแล้ว กับทักษิณ ตนก็สู้ เวลาเท่านั้นจะเป็นคำอธิบาย ขณะเดียวกันถ้า ณัฐวุฒิ ไม่ซื่อสัตย์ ขอให้คนของพรรคเพื่อไทยใช้ปลายเท้าเขี่ยออกจากพรรค นาทีนั้น ผมเป็นมนุษย์ไม่ได้ ขอให้สิ้นนับถือ ไม่ต้องเอ่ยถึงกันอีกต่อไป” 

ณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ครอบครัวเพื่อไทย ที่ จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ว่า ตนก็จะร่วมคณะไปด้วย พูดคุย ทำความเข้าใจกับประชาชน สื่อสารว่าที่ ส.ส.พรรคการเมืองหนึ่งไปโหวตให้พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามคืออะไร และเราควรคิดอ่านตัดสินใจอย่างไรกับการตัดสินใจทางการเมืองกับจ.ศรีสะเกษ

ณัฐวุฒิ กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคทุกคน และคนเสื้อแดง ที่มาให้กำลังใจ พร้อมบอกว่า เบื้องหลังตนคือคนเสื้อแดง เบื้องหน้าคือทุกคนที่หวังจะทำงานร่วมกัน ขอให้เข้าใจว่าเราทำเพื่อบ้านเมือง ขอให้เชื่อว่าบ้านเมืองนี้มีสิ่งดีๆรออยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้าย ณัฐวุฒิ ระบุด้วยว่า หลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ตนเห็น ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ที่ทำงาน 8 วัน กับ พล.อ.ประยุทธ์ 8 ปี แล้วรู้สึกอึดอัดใจ 

“ชัชชาติ เดินมาหา ประชาชนถามว่า ‘ทำไมเพิ่งมา’ เห็นอีกคนเดินมาหา กลับบอกว่า ‘ทำไมยังไม่ไป’ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนได้ว่า ถ้าประชาชนเลือกสิ่งที่ถูกต้อง ก็ได้สิ่งที่ถูกต้อง บรรยากาศเหมือนดนตรีในสวน เหมือน ชัชชาติ ร้องเพลง “ยามลมโชยมา…(วอนลมฝากรัก)” ให้ประชาชนฟัง ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ร้องเพลง “วอเอ๊ะๆๆๆ” ที่เป็นเนื้อซ้ำๆ วนๆ แต่ไม่มีความหมาย แต่ยังวางแผนที่จะอยู่ต่อ” 

แพทองธาร เพื่อไทย 11D-EB16C5D74FF3.jpegE8FE01E9-0D0D-4045-864D-045358D89A27.jpegแพทองธาร ณัฐวุฒิ เสื้อแดง เพื่อไทย B-D8395845648B.jpeg

ครอบครัวเพื่อไทย เจาะ 'ศรีสะเกษ' ตีงูเห่าหวังแลนด์สไลด์ในพื้นที่

ทั้งนี้ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวกับสื่อมวลชนถึงภารกิจแรกที่จะพาผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยทำ คือการลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อไล่หนูตีงูเห่า โดยยืนยันว่าพร้อมจะพาไปในพื้นที่ที่แม้จะมี ส.ส. เป็นงูเห่าไปแล้ว ก็หวังจะแลนด์สไลด์ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ 

ด้าน ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนพร้อมทำงานทันที เพราะการทำงานการเมืองในทุกพื้นที่ไม่มีอะไรง่าย มีความซับซ้อนในแต่ละสถานการณ์ เฉพาะที่ จ.ศรีสะเกษ เราก็พร้อมเดินหน้าเข้าหาประชาชน เล่าข้อเท็จจริง เชิญชวนประชาชนเคียงข้างพรรคเพื่อไทยต่อไป เป้าหมายยก จ.ศรีสะเกษหรือแลนด์สไลด์นั้น ไม่ใช่เป้าหมายที่เกินจริง แต่เป็นเป้าหมายที่เราเคยทำได้มาแล้ว 

ส่วนความมั่นใจเรื่อง ส.ส. ที่จะไม่กลายเป็นงูเห่า ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส.ส.ทุกคนเป็นมนุษย์ วันนี้หัวใจเป็นแบบนี้ วันต่อไปเงื่อนไขเปลี่ยน เขาก็อาจเปลี่ยนการตัดสินใจได้ ที่สำคัญคือพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ต้องยืนยันหลักการที่ชัดเจนได้ ผู้คนเปลี่ยนหัวใจได้ แต่พรรคการเมืองต้องมีหลักการที่ชัดเจน และที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ก็ยังยืนอยู่ในหลักการเดิม และเราจะย้ำให้ประชาชนได้เห็นอีกครั้ง

ส่วนวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะคอยดูความเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก ยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นครอบครัวเพื่อไทย ส่วนก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็ยังมีคุณสมบัติที่จะเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และลงสมัคร ส.ส.ได้ ซึ่งก่อแก้วจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง