ในช่วงหัวค่ำวันที่ 10 ส.ค. 2563 กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดกิจกรรมแฟลชม็อบ 'ธรรมศาสตร์จะไม่ทน' บริเวณลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีผู้เข้าร่วมชุมนุมรับฟังแกนนำที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีอย่างคึกคัก
แกนนำจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่างผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยวิจารณ์รัฐบาล ว่าด้วยการใช้งบประมาณที่สิ้นเปลืองไม่ตอบโจทย์ มีการใช้วงเงินกู้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทย ละลายภาษีประชาชนไปกับการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แต่กลับมารีดภาษีประชาชน ดังนั้นในฐานะที่ประชาชนเป็นเจ้าของภาษีไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนออกมาเรียกร้องให้ประเทศมันดีขึ้น อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ใช้ภาษีประชาชน กลับอ้างว่านายสั่งมา ละเมิดสิทธิประชาชน เพราะพวกเขาออกมาทวงคืนประชาธิปไตย ทำให้ผู้คนยังเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
ขณะเดียวกันผู้ปราศรัยบางรายยังชี้ว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำหน้าที่เอื้อประโยชน์เจ้าสัว ผ่านการอนุมัติโครงการต่างๆ โดยไม่เคยคำนึงถึงข้อเสนอของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรัฐสวัสดิการ ที่ประชาชนต้องตกอยู่กับความเหลื่อมล้ำ กลายเป็นช่องว่างทางชนชั้น ส่วนรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ถูกร่างมาเพื่อการสืบทอดอำนาจ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อประชาชน วันนี้ประชาชนไม่ต้องการแล้วรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ตั้งแต่กระบวนการร่างที่ไม่เป็นธรรม ด้วยการทำประชามติที่มีมลทิน
อีกทั้งมีการวิพากษ์กระบวนการยุติธรรม ที่มีการอุ้มเยาวชนที่เป็นแกนนำการชุมนุม แม้ว่าพวกเขาออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย แต่รัฐได้ส่งคนไปคุกคาม ด้วยการออกหมายจับควบคุมตัวผู้เคลื่อนไหวโดยทันที จึงเห็นว่าไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยจะทำไม่ได้หากนายสั่งมา สวยทางกับคดีทายาทเครือกระทิงแดง ผ่านไป 8 ปี ไม่มีแม้แต่การออกหมายจับ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ออกมาแก้ต่างว่าอย่างปลุกวาทกรรม "คุกมีไว้ขังคนจน" แต่ภาพความจริงมันคือมันก็ไม่ต่างที่ผู้คนได้ตั้งคำถาม มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกับการอ้างว่ามีสารเฮโรอีนจากการใช้ยารักษาฟัน
ขณะเดียวกัน ทุกวันนี้มีกลุ่มคนที่เคยออกมาเข่นฆ่านักศึกษาสมัย 6 ต.ค. 2519 มันน่าภาคภูมิใจอย่างไร และมีสิทธิอะไรมาฆ่ามาทรมานพวกพี่ของเรา
ส่วนสิทธิทางเพศของ LGBTQ ก็เป็นกฎหมายที่ออกมาคลุมเครือ ภายใต้ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่สะท้อนให้เห็นว่าพวกรัฐบาลไม่เคยมองคนเท่าเทียมกับพวกเขา จากการโดนเหยียดให้เป็นพลเมืองชั้นสอง จึงอยากเรียกร้องให้ทำให้ได้ไหมกฎหมายสมรสเท่าเทียม วันนี้กลุ่มคนผู้มีหลากหลายทางเพศไม่เคยลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ตนเอง แต่ปัจจุบันสะท้อนว่าสังคมไทยยังอยู่ในมายาคติชายเป็นใหญ่ เพราะเชื่อว่าพวกเขามีความคิดที่เหยียดหยาม จึงอยากถามว่าผิดอะไรที่เกิดเป็น LGBTQ วันนี้จึงออกมาเรียกร้องว่าไม่ต้องการ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่มันคือกฎหมายกีดกันแบ่งแยกชนชั้น ที่ออกมาจากการเสนอของกระทรวงยุติธรรม ที่สวนทางกับชื่อของกระทรวง เพราะสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้มันคือความบัดซบ มันได้ตัดสิทธิของคู่ชีวิตต่างถูกตัดขาดจากรัฐสวัสดิการของ LGBTQ จึงอยากให้ผู้ชุมนุมสำรวจร่างกาย ว่าทุกคนต่างมีหัวใจเหมือนกันทำไมต้องจำกัดพวกกีดกันกลุ่มคนเหล่านี้
"มันถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องระลึกถึงว่า มันหมดเวลาแล้วของรัฐบาลชุดนี้ เพราะโลกมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว" ผู้ปราศรัยย้ำว่า ถ้ายังยึดติดกับชุดความคิดแบบเดิม "ก็ขอให้ลาออกไปซะ รัฐบาลเฮงซวย"
'อานนท์' ลั่น 'ปรีดี' ตายตาหลับม็อบร่วมเยอะ ขีดเส้นโละทิ้ง ส.ว.ก่อน 1 ธ.ค.
ขณะที่ อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า วันนี้ ปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษอาวุโสได้นอนตายตาหลับแล้ว วันนี้เป็นครั้งแรกหลังรัฐประหารที่มีประชาชนเรือนหมื่นคน มันไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง แต่คือม็อบมุ่งมั่นเพื่อประชาธิปไตย ขอให้ทุกคนระลึกถึงผู้คนที่ถูกเข่นฆ่าเพราะออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ พวกเราคือม็อบที่สานต่ออุดมการณ์คณะราษฎรให้สำเร็จ ประเด็นต่างๆ ต้องถูกทุกคนตั้งคำถามและเสนอทางออกได้ เพื่อการอยู่ร่วมกันภายใต้กรอบกฎหมายเดียวกัน
"วันที่ 1 ธ.ค.นี้ต้องไม่มี ส.ว.ขี้ข้าเผด็จการ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเอา ส.ว.ออกไป เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 วาระรวดภายในเดือน ก.ย.นี้" อานนท์ ระบุ
อานนท์ ยังย้ำในช่วงท้ายว่าทางออกของเผด็จการมีไม่มาก ถ้าไปเลือกทางเลือกอื่นไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลแห่งชาติ พวกเราไม่ต้องการ หากมีการรัฐประหารพวกเราจะออกมาต่อสู้ร่วมกัน ใช่ ไม่ใช่ พร้อมทั้งย้ำให้กลุ่มผู้ชุมนุมร่วมกันต่อสู้ด้วยการชูสามนิ้วเป็นเชิงสัญลักษณ์เพื่อต่อต้านเผด็จการ และระบุว่า อีกไม่นานนี้เราจะชนะแน่นอน ท้ายนี้อยากให้ทุกคนให้กำลังใจตัวเองเพราะการต่อสู้ครั้งนี้ต้องเรียกร้องกำลังใจตัวเอง
"มันจะเอาผมไปกักขังติดคุกจะไม่เสียใจเลย สุดท้ายอยากขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับครอบครัวของผม ครอบครัวที่เป็นชาวไร่ ชาวนาที่ผลิตมาเป็นทนายของประชาชน พวกเขาไม่ได้เรียนหนังสือสูง แต่พวกเขารักประชาธิปไตย เราจะสู้ไปด้วยกันเพราะคือครอบครัวประชาธิปไตย" อานนท์ ระบุ
'ประธานไมค์' บี้นายกฯ ยุบสภา ไม่สนถูกถอนปล่อยตัว
ด้าน ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ประธานกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย แสดงจุดยืนว่าการออกมาวันนี้ ตนไม่สนใจว่าจะถูกถอนการปล่อยตัวจากข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และข้อหาอื่นๆ รวมอีก 7 ข้อหาหรือไม่ วันนี้เราเห็นแล้วว่าพวกเจ้าหน้าที่ที่ออกมาละเมิดคือพวกรับใช้เผด็จการ ต้นไม้ที่ถูกผู้มีอำนาจออกมาทำลายต้นไม้ประชาธิปไตย วันนี้มันจึงควรถูกย้ายไปในที่ที่ควรอยู่ ตอนนี้ตนอยากบอกว่าการแสดงเจตจำนงของประชาชนต่ออภิสิทธิ์ชนนั้น สามารถทำได้ตามกรอบรัฐธรรมนูญ เพราะทุกคนต้องอยู่ใต้กฎหมาย ไม่ใช่การอยู่เหนืออธิปไตยอำนาจประชาชน ดังนั้นจึงขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภา แล้วมาสู้กันตามกติกาที่เป็นธรรม
'ปวิน' โผล่หนุน 'แฟลชม็อบ'
ในช่วงท้ายของการชุมนุมได้เปิดคลิปวิดีโอการแสดงความเห็นของ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ มายังเวทีปราศรัย พร้อมสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้อง และสนับสนุนที่ อานนท์ เรียกร้องให้นำ ส.ว. ออกจากรัฐธรรมนูญ
จากนั้นการชุมนุมได้ยุติลงในเวลา 20.55 น. ทั้งนี้ กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม มีข้อเรียกร้องที่สอดคล้องกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก 3 ประการ คือ 1.ยุบสภา 2.หยุดคุกคามประชาชน 3.แก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงอ่านประกาศคณะราษฎร ในเหตุการณ์อภิวัฒน์สยาม ปี 2475 เพื่อแสดงออกว่าไม่ยอมจำนนต่อศักดินา พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุม ขีดเส้นใต้ไล่เผด็จการกับคณะประชาชนปลดแอก ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
วอนฝ่ายมั่นคงยืนข้าง นศ. ปัดชุมนุมมีท่องน้ำเลี้ยง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ส่วนตัวแทนกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ได้ให้ความเห็นว่าการตั้งคำถามถึงระบบการศึกษา ได้ส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียนที่ถูกฝ่ายปกครองเรียก จึงเห็นว่าการออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยนั้นมันทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนเสียหายอย่างไร ตนออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงออกมายืนข้างนักศึกษา ส่วนผู้หลากหลายทางเพศนั้น ตนเองว่ามนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกันไม่ได้ผิดปกติจากคนทั่วไป
ส่วนปัญหาในโรงเรียนนั้น เยาวชนต่างจ่ายค่าเทอมกันทุกคนแต่กลับไม่มีการพัฒนาไปข้างหน้ามีกฎระเบียบที่เป็นถอยหลัง หวังว่าการออกมาครั้งนี้จะส่งเสียงไปถึงผู้มีอำนาจ ว่าทำไมต้องมาละเมิดสิทธิเสรีภาพของนักเรียน ขณะเดียวกันหลักสูตรการศึกษาพบว่ามีช่องว่างทางชนชั้น วันนี้ยืนยันว่าการออกมาไม่มีท่อน้ำเลี้ยงแต่เราออกมาเพื่อยืนยันในหลักการ เพราะอยากให้ระบบการศึกษามันทัดเทียมยกระดับเท่าสากลประเทศ
กลุ่มแรงงานอัด รบ.เมินขึ้นค่าแรง 400 บาท ยก 'ปรีดี' มีชีวิตได้เรียนฟรีแล้ว
ขณะที่แกนนำผู้ใช้แรงแรงงานย่านรังสิต กล่าวว่าสิทธิของคนที่เป็นคนงานรายวันได้ขาดหายตั้งแต่การทำรัฐประหาร ได้ถูกรัฐบาลขายฝัน ว่าจะเพิ่มค่าแรงเป็น 400 บาทต่อวัน ก็ไม่สามารถทำได้ตามที่หาเสียง ในส่วนของการเคลื่อนไหวนั้นก็ถูกหน่วยงานความมั่นคงเรียกตัวไปคุยเพื่อไม่ให้ออกมาประท้วง ซึ่งเศรษฐกิจทุกวันนี้มันย่ำแย่ส่งผลกระทบถึงครอบครัวของนิสิตนักศึกษา หากปรีดี พนมยงค์ ยังอยู่วันนี้ได้เรียนฟรีไปแล้ว ขอให้ทุกคนพึงระลึกไว้ว่าปรีดีถูกฆ่าเพราะใคร พร้อมกันนี้แกนนำแรงงาน ได้ประกาศว่า "พวกเราพร้อมแล้วที่จะออกมาเคียงข้างนักศึกษาและประชาชน" ในการเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ 16 ส.ค.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง