ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) โดยระบุว่าแพ้การเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง เพราะประชาชนภาคเหนือตอนบนไม่เอารัฐบาลว่า
ต้องถือว่าเป็นการวิเคราะห์การเมืองในแนวของร.อ.ธรรมนัส ที่อาจจะเหมารวมผลการเลือกตั้งว่าพี่น้องประชาชนในภาคเหนือไม่เอารัฐบาล ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วมีหลายมิติที่ควรจะพูดถึงให้รอบด้าน แต่หากการวิเคราะห์ดังกล่าวเพียงเพื่อเป็นเหตุผลในการถอนตัวทิ้งรัฐบาลดูแล้วก็จะไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล เชื่อว่านักการเมืองมืออาชีพมองสถานการณ์การเมืองออกในช่วงสถานการณ์ที่รัฐบาลต้องเดินหน้าทำงานให้กับประชาชนประเทศหากมีปัญหาใด ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องร่วมมือกันหาทางแก้ไขฟันฝ่าให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน
ในส่วนของประชาธิปัตย์นั้นการร่วมรัฐบาลเราตระหนักในหน้าที่ที่เราต้องทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและส่วนรวมให้ได้มากที่สุดตามเงื่อนไขที่ได้มีข้อตกลงไว้เมื่อครั้งร่วมรัฐบาล ไม่ได้มีความคิดจะไปแก่งแย่งหรือแทงข้างหลังใครเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ส่วนตน
ในส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในส่วนของพรรค ได้ยืนยันมาตลอดว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจถือได้ว่าเป็นกระบวนการตรวจสอบตามระบบประชาธิปไตย ซึ่งมีการเปิดอภิปรายกันทุกปี ไม่มีความกังวลใจใดๆ พร้อมชี้แจงทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา และถ้าหากรัฐมนตรีของพรรคมีการทุจริต ยินดีให้มีการตรวจสอบอย่างเต็มที่ เชื่อว่านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีก็พร้อมที่จะชี้แจง
ราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า ในส่วนของพรรค ทั้งในบทบาทฝ่ายบริหารที่ได้ร่วมรัฐบาลรัฐมนตรีของพรรคก็จะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส.ทุกคนก็เช่นกันที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องประชาชนทำงานเพื่อส่วนรวมให้เต็มที่ สุทิน คลังแสงประธานวิปฝ่ายค้านพยายามบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์คิดให้ดีอย่าไปแบกหามนายกรัฐมนตรี ต้องย้ำว่าพรรคไม่มีแนวคิดที่จะแทงข้างหลังหรือหักหลังใคร หน้าที่ที่ได้รับรัฐมนตรีทุกคนพร้อมทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล การร่วมกันทำงานตามภาระหน้าที่คงไม่ใช่การไปแบกไปหามใคร
ส่วนที่ สุทิน คลังแสงได้เปรียบเทียบเพิ่มเติมว่า เปรียบทองคำอยู่ใกล้ตะกั่วจะหมอง อย่าได้กังวลแทนพรรค ทองก็คือทอง และคงไม่ไปมองใครว่าเป็นตะกั่ว พรรคการเมืองบางพรรคที่โกงบ้านโกงเมืองเผาบ้านเผาเมือง ยังไม่มีใครไปเทียบกับสิ่งไหนเลย แต่ประชาชนรู้สึกได้ว่าพรรคดังกล่าวเป็นเช่นไร และที่สุทินได้กล่าวเทียบต่อไปว่าใกล้เลือกตั้งหมาป่วยเห็บเหาโดดหนี ไม่มีพรรคไหนหรือใครเป็นเห็บเหา และไม่มีใครเป็นหมาที่ป่วยดังคำเปรียบเปรย แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดในสังคมการเมืองเห็บหรือเหาที่พยายามสูบเลือดประเทศพอกินอิ่มแล้วกระโดดหนีก็มีให้เห็นมากมาย เปรียบเทียบอย่างไรก็ได้แต่อย่าให้เข้าตัวเลย ทุกฝ่ายควรตระหนักในการทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์จะดีที่สุด