ตัวแทนบริษัทด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารยักษ์ใหญ่ของโลก ทั้งเฟซบุ๊ก แอปเปิล กูเกิล ไมโครซอฟท์ แอมะซอน และพาราเมาต์พิกเจอร์ รวมถึงผู้แทนสหประชาชาติ (UN) และสหภาพยุโรป (EU) เข้าร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยการปกป้องสวัสดิภาพเยาวชนซึ่งทางสำนักวาติกันเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 พ.ย.
สมเด็จพระสันตะปาปา หรือ 'โป๊ป' ฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ทรงเป็นประธานในพิธี และโป๊ปทรงเรียกร้องให้บริษัทเหล่านี้ตระหนักถึงปัญญาสื่อลามกเด็กที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ถือเป็นภัยคุกคามเยาวชนทั่วโลก พร้อมตรัสว่าบริษัทด้านเทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเยาวชนเหนือกว่าผลประโยชน์ของบริษัท
โป๊ปหรานซิสทรงเรียกร้องให้บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ร่วมผลักดันมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดกว่าเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อของเครือข่ายผู้มีรสนิยมทางเพศกับเด็ก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในโลกยุคดิจิทัล เพราะเด็กหลายรายถูกล่อลวงจากการสนทนากับผู้ก่อเหตุล่วงละเมิดผ่านสิื่อสังคมออนไลน์ หรือทางแอปพลิเคชันพูดคุยต่างๆ แต่ถ้าหากบริษัทที่รับผิดชอบดูแลแพลตฟอร์มต่างๆ เข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบ หรือกำจัดกิจกรรมที่เข้าข่ายเป็นภัยต่อเยาวชน ก็จะช่วยลดปัญหาเยาวชนตกเป็นเหยื่อการละเมิดทางเพศได้
เว็บไซต์ DW สื่อเยอรมนี รายงานว่า โป๊ปฟรานซิสทรงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเรื่องป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หลังจากที่คริสตจักรโรมันคาทอลิกถูกโจมตีอย่างหนักว่ามีส่วนรู้เห็นในการปกปิดพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศของนักบวชและบาทหลวงคาทอลิกที่เคยเกิดขึ้นในอดีต จนกiะทั่งถูกเปิดโปงโดยสื่อมวลชนและเครือข่ายเหยื่อที่ลุกขึ้นเรียกร้องความเป็นธรรมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โป๊ปฟรานซิสตรัสยืนยันกับผู้ที่เคยเป็นเหยื่อว่าจะไต่สวนข้อเท็จจริงและลงโทษผู้กระทำความผิด พร้อมปฏิรูประบบการบริหารจัดการคริสตจักรให้โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่ในปัจจุบัน
สื่อต่างชาติระบุว่าโป๊ปฟรานซิสจริงจังเรื่องการป้องกันและปราบปรามผู้ล่วงละเมิดทางเพศเยาวชน ไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล โดยต้นปีที่ผ่านมา บาทหลวงชาวอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นคนชาติเดียวกับโป๊ปฟรานซิส ถูกสอบสวนจากคณะกรรมการฯ หลังพบว่านักบวชคนดังกล่าวมีภาพลามกเด็กเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง และเมื่อปีที่แล้ว ศาลวาติกันตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปีแก่ 'คาร์โล อัลแบร์โต คาเปลลา' เจ้าหน้าที่ระดับสูงของวาติกัน ในข้อหารับชมและครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก
นอกจากนี้ โป๊ปยังได้แต่งตั้ง 'ฆวน อันโตนิโย เกเรโร อัลเบส' นักบวชคณะเยสุอิตมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการคลังของสำนักวาติกันเมื่อวันที่ 14 พ.ย. หลังจากที่พระคาร์ดินัล จอร์จ เพล ผู้ดำรงตำแหน่งคนก่อนหน้า ต้องเดินทางไปยังประเทศออสเตรเลียเพื่อรับฟังการพิจารณาคดีที่เขาถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนในอดีต
บาทหลวง ฆวน อันโตนิโย เกเรโร อัลเบส ผู้จะมาดูแลการคลังของสำนักวาติกันแทนพระคาร์ดินัลจอร์จ เพล จบปริญญาด้านเศรษฐศาสตร์ก่อนจะมาเป็นนักบวชคณะเยสุอิตเมื่อปี 1997 แต่การแต่งตั้งนักบวชรายนี้เข้ารับตำแหน่งใหญ่ในวาติกัน ทำให้มุขนายกผู้ครองตำแหน่งสูงๆ ในวาติกันไม่พอใจมากยิ่งขึ้น เพราะมองว่านี่คือการแต่งตั้ง 'คนนอก' ผิดธรรมเนียมปฏิบัติของวาติกัน ซึ่งตามปกติจะพิจารณาจากลำดับชั้นหรือยศของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ มุขนายกจากสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี และออสเตรเลีย ได้ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกเพื่อโจมตีโป๊ปฟรานซิส โดยระบุว่าพระองค์ทรงดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (sacrilegious) สืบเนื่องจากกรณีที่ทรงอนุญาตให้นำรูปเคารพของกลุ่มชนเผ่าในลุ่มแม่น้ำแอมะซอนมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ของสำนักวาติกันในอิตาลี ซึ่งข้อกล่าวหานี้รุนแรงพอสมควร แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่โป๊ปฟรานซิสทรงถูกวิพากษ์วิจารณ์
หัวหน้าบาทหลวงรายหนึ่งซึ่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อ ไม่พอใจที่โป๊ปนำรูปเคารพ 'ปาชามามา' ซึ่งหมายถึงเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ของโลก มาจัดแสดงที่วาติกัน และนำปาชามามาไปทิ้งลงแม่น้ำทิเบอร์ในกรุงโรม ทำให้โป๊ปตรัสขออภัยกลุ่มชนเผ่าในแอมะซอนจากกรณีดังกล่าว ซึ่งก็ยิ่งทำให้บาทหลวงและหัวหน้าบาทหลวงคาทอลิกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของสื่อตะวันตกและชาวคริสต์นิกายอื่นๆ มองว่าท่าทีของโป๊ปฟรานซิสถือเป็นความก้าวหน้าและเป็นการปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคปัจจุบัน เพราะคริสตจักรโรมันคาทอลิกมีอิทธิพลแผ่ขยายไปทั่วโลก ทำให้ขาดการตรวจสอบเรื่องผิดปกติที่เกิดขึ้นเป็นการภายใน และโป๊ปฟรานซิสทรงยืนยันว่าพระองค์จะเดินหน้าปฏิรูปคริสตจักรต่อไป โดยตรัสด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงพิพากษาเองว่าการนำรูปเคารพของชาวแอมะซอนมาจัดแสดงเป็นการดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญด้านคริสตจักรโรมันคาทอลิกรายหนึ่งเปิดเผยกับสื่ออังกฤษอย่างเทเลกราฟว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่ายอนุรักษนิยมในคริสตจักรจะไม่พอใจแนวทางการปฏิรูปของโป๊ปฟรานซิส เพราะการปรับเปลี่ยนบางอย่างหมายถึงการรื้อถอนโครงสร้างการปกครองของสำนักวาติกัน แต่ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ระบุว่า คณะบาทหลวงหรือมุขนายกที่ต่อต้านโป๊ปฟรานซิสเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับชาวคริสต์อีกหลายล้านคนทั่วโลกที่รู้สึกชื่นชมโป๊ปฟรานซิสที่ต้องการปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่
ที่มา: DW/ Telegraphh