งานวิจัยชิ้นนี้ของทาง CDC ใช้ชุดข้อมูลตั้งแต่มีนาคม 2020 จนถึงมิถุนายน 2021 โดยอิงฐานข้อมูลจาก 2 บริษัทประกันชีวิตเจ้าใหญ่ในสหรัฐฯ ที่เปิดเผยว่า อัตราการล้มป่วยด้วยโรคเบาหวาของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีหลังป่วยด้วยโรคโควิด-19 สูงกว่าเด็กที่ไม่เคยติดโควิด-19 มาก่อน
จากข้อมูลชุดใหญ่ที่บันทึกสุขภาพของเด็กสหรัฐฯ 1.5 ล้านรายนั้น ทีมวิจัยจาก CDC พบว่ามีการวินิจฉัยพบเด็กป่วยด้วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นกว่า 166 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่เด็กเหล่านี้หายจากอาการโควิด-19 เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่เคยติดโควิด-19 มาก่อน ในขณะที่ชุดงานวิจัยที่สอง ที่มีบันทึกเด็ก 9 แสนรายเผยว่า เด็กๆ มีอัตราการป่วยด้วยเบาหวานเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์หลังหายป่วยจากโควิด-19
CDC อธิบายว่า โควิด-19 อาจนำไปสู่การป่วยด้วยโรคเบาหวาน ผ่านการที่เชื้อเข้าโจมตีเซลล์ตับอ่อน ทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงเนื่องจากการเผาผลาญกลูโคสที่ผิดปกติอันส่งผลมาจากการติดเชื้ออีกที จนก่อให้เกิดการป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ตามมา โดยอาการดังกล่าวเกิดขึ้นมากในกลุ่มผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน ซึ่งมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่สูงจนสามารถวินิจฉัยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
ข้อมูลชุดดังกล่าวยังไม่ได้หมายรวมถึงบันทึกสุขภาพเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว จึงยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยให้เด็กที่ติดโควิด-19 เสี่ยงกับการป่วยด้วยโรคเบาหวานตามมาหรือไม่ ทั้งนี้ CDC ยังคงเชิญชวนให้ผู้ปกครองพาเด็กที่มีอายุ 5-17 ปี ที่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้แล้ว มาฉีดวัคซีนเพื่อการป้องกันการติดเชื้อ ป่วยหนัก และการเสียชีวิต
ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีรายงานพบเด็กป่วยโควิด-19 จนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นกว่าเกือบเท่าตัว โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อย่างไรก็ดี การติดเชื้อมักเกิดขึ้นในเด็กที่ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ อ่านเพิ่ม: https://www.voicetv.co.th/read/r7jA_e9QN
ที่มา:
https://www.nytimes.com/2022/01/07/health/kids-covid-diabetes-cdc.html