ศาลประชาชนระดับกลางในเมืองเจี่ยวซั่ว มณฑลเหอหนานของจีน พิพากษาลงโทษประหารชีวิต ‘หวังหยุน’ ครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง โดยคำแถลงของศาลระบุว่าอดีตครูคนนี้ได้ใส่สารโซเดียมไนไตรท์ลงในข้าวต้มของเด็กนักเรียนอนุบาล 25 คน ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของครูอีกคนหนึ่งเพื่อเป็นการแก้แค้น หลังครูทั้ง 2 คน โต้เถียงกันในเรื่องการดูแลนักเรียน โดยศาลระบุว่าแรงจูงใจของหวังเป็นเรื่อง “ชั่วช้าและเลวทราม” ผลของการกระทำดังกล่าวร้ายแรงมากและเธอสมควรถูกลงโทษหนัก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2562 สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วจีนและกลายเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลก โดยรายงานระบุว่าเด็กนักเรียนอาเจียนและเป็นลมหลังรับประทานมื้อเช้าจนต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาล ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนชาย 1 คนที่ป่วยหนักหลายเดือนก่อนจะเสียชิวิตเมื่อเดือน ม.ค. 2563 ซึ่งการสอบสวนของตำรวจได้เริ่มขึ้นหลังมีการกล่าวหาว่าครูหวังได้วางยาเด็กนักเรียน
สารโซเดียมไนไตรท์มักถูกใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ใช้เพื่อการยืดอายุเนื้อสัตว์ แต่สารชนิดนี้ก็สามารถเป็นพิษได้เช่นกันหากใช้ในปริมาณมาก โดยศาลเมืองเจี่ยวซั่วยังระบุว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หวังวางยาพิษผู้อื่น โดยเมื่อปี 2560 เธอก็ได้ซื้อสารไนไตรท์ทางออนไลน์เพื่อวางยาสามีของตัวเองหลังการทะเลาะโต้เถียงกัน แต่ว่าอาการของสามีนั้นไม่รุนแรง
ทั้งนี้ ทางการจีนปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลว่ามีนักโทษจำนวนเท่าไรที่ถูกประหารชีวิต แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนเชื่อว่าในแต่ละปีมีผู้ที่ถูกประหารชีวิตหลายพันคนในจีน โดยการลงโทษดังกล่าวจะทำโดยการฉีดยาพิษหรือการยิงเป้า
ขณะเดียวกัน การตัดสินประหารชีวิตหวังหยุนยังมีขึ้นในขณะที่เพิ่งเกิดข้อกล่าวหาใหม่ต่อโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเมืองฮูฮอต เขตปกครองตนเองมองโกเลียในทางตอนเหนือของจีนว่าลงโทษนักเรียนไม่เหมาะสม โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่าผู้ปกครอง 8 คน พบรอยแผลเหมือนเข็มทิ่มบนศีรษะและร่างกายของลูกตัวเองหลังจากที่เด็กๆ กลับจากโรงเรียน และเมื่อถามว่ารอยเข็มเหล่านี้มาจากไหน เด็กๆ ก็ตอบผู้ปกครองว่าครูของพวกเขาใช้ไม้จิ้มฟันและเข็มทิ่มจากการประพฤติตัวไม่เหมาะสมในชั้นเรียนและครูยังสั่งห้ามพวกเขาบอกครอบครัวอีกด้วย ล่าสุด ตำรวจท้องถิ่นเผยว่ามีผู้หญิง 3 คน ถูกจับกุมแล้วฐานต้องสงสัยทรมานเด็กที่อยู่ภายใต้การดูแล แม้ว่าคดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะที่ทางโรงเรียนได้ออกแถลงการณ์ขอโทษที่สร้างความกังวลให้กับผู้ปกครอง แต่ก็เผยว่ายังไม่พบหลักฐานใดๆ ที่สามารถยืนยันข้อกล่าวหาดังกล่าว