เลือกตั้ง
กกต.ยืนยันพิจารณาคดียุบพรรค ทษช. เป็นไปตามกฎหมาย
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวถึงกรณีพรรคไทยรักษาชาติ ตั้งข้อสังเกตการทำงานของ กกต.ที่ไม่ตั้งคณะกรรมการไต่สวนในคดียุบพรรคว่า ต้องไปอ่านคำแถลงการณ์ของ กกต.ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าดำเนินการอยู่ภายใต้มาตรา 92 เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.โดยตรง พร้อมกับยืนยันว่า กกต.ไม่ต้องรับผิดชอบกรณีรับการเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคไทยรักษาชาติ เพราะในขณะที่พรรคไทยรักษาชาติยื่นเสนอชื่อกับ กกต. เป็นการรับเรื่อง แต่ยังไม่ได้พิจารณาเปรียบเหมือนการส่งจดหมายมายัง กกต. กกต.ต้องรับจดหมายฉบับนั้นไว้ แต่ยังไม่มีการพิจารณา ซึ่งแนวทางคล้ายกับการดำเนินงานศาลที่รับเรื่องไว้ แต่ยังไม่รับฟ้อง
ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่า ตามกระบวนการเมื่อมีหลักฐานหรือมีข้อเท็จจริงปรากฏ นายทะเบียนสามารถสั่งให้ดำเนินการตามสมควร หรือตั้งคณะกรรมการไต่สวนได้ ถ้าเห็นว่ามีมูลจึงนำเสนอคณะกรรมการ กกต เพื่อพิจารณา ซึ่งกรณีนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงาน ส่วนจะถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้จนกว่าเรื่องนี้จะมาถึงคณะกรรมการ กกต.
ประธาน กกต. ปฏิเสธให้รายละเอียดเกี่ยวกับคดีเลือกตั้งกว่า 200 คดี ที่นำเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งว่าเป็นการกระทำผิดในลักษณะใด เนื่องจากต้องเคารพศาลและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแล้ว
“เลขา กกต.”แจงกรณีไทยรักษาชาติปรากฏหลักฐานชัดเจน เป็นหลักฐานอันเชื่อได้ว่ากระทำผิดตามมาตรา 92 จึงส่งศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบพรรค ต่างจากกรณีพรรคพลังประชารัฐที่เป็นเพียงคำร้องที่ยังไม่ปรากฏหลักฐาน
เลขาฯ กกต. ย้ำกรณี ทษช. มีหลักฐานชัดทางกฎหมาย
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ชี้แจงกรณีเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์การพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักษาชาติกับพรรคพลังประชารัฐของ กกต. ที่มีการเปรียบเทียบว่ากรณีของพรรคไทยรักษาชาติเป็นไปด้วยความรวดเร็ว แต่กรณีของพรรคพลังประชารัฐกลับมีความล่าช้า ว่าเป็นเรื่องของกระบวนการในการพิจารณาทางกฎหมาย โดยเมื่อปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 92 ของพ.ร.ป.พรรคการเมือง กกต.จึงมีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ต่างจากกรณีที่มีการยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง หรือ กกต. ซึ่งยังไม่ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า จึงต้องมีการไปตรวจสอบหลักฐานอีกครั้ง เพื่อรวบรวมหลักฐานให้ กกต.
ซึ่งกรณีของพรรคไทยรักษาชาติที่ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคนั้น เป็นกรณีที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนจากใบสมัคร ต่างจากกรณีของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นเพียงคำร้อง และกกต.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลักฐาน โดยคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ กกต.ได้ภายใน 1 ถึง 2 สัปดาห์นี้
เลขาธิการ กกต. กล่าวต่อว่าหากพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรค ไม่จำเป็นต้องพิมพ์บัตรเลือกตั้งใหม่เพียงแต่ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่าผู้สมัครของพรรคไทยรักษาชาติถูกตัดสิทธิ์ เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนี้ เพื่อป้องกันการการเบอร์ผู้สมัคร��พราะจะกลายเป็นบัตรเสีย
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีมีพรรคการเมืองเข้าไปแก้ไขฐานข้อมูลสมาชิกพรรคว่า กกต.ยังไม่ได้มองไปถึงขั้นการดำเนินคดีอาญา เพียงแต่ในชั้นนี้ กกต.อยู่ระหว่างการจัดทำฐานข้อมูล เพื่อให้แต่ละเฃจังหวัดไปแถลงต่อศาลว่าเหตุที่กกต.ตัดสิทธิ์และไม่ประกาศ ชื่อเกิดจากเหตุใด ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่กกต.อยู่ระหว่างการชี้แจงต่อศาลฎีกาฯ ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมอบหมายให้ศาลจังหวัดเป็นผู้ไต่สวน ส่วนจะมีความผิดทางอาญาหรือไม่จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้น อยู่ที่คำพิพากษาของศาลซึ่งต้องไปดูในตัวบทของกฎหมายอีกครั้งว่า หากถูกจำคุกหรือถูกฝากขัง จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และจะกระทบกับการเป็นหนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคอนาคตใหม่หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
